พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายให้ทุกภาคส่วน เร่งเดินหน้าการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรล สายสีชมพู – เหลือง เตรียมเปิดให้บริการสายทางใหม่ปี 2564
วันนี้ (27 สิงหาคม 2561) เวลา 09.00 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเริ่มการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลสองสายแรกของประเทศไทย (โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง) โดยมี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พลเอกวิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ. บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น และนายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง ร่วมให้การต้อนรับ ณ บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง หมวดทางหลวงศรีนครินทร์ ถนนศรีนครินทร์ แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลได้มีนโยบายผลักดันโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ ให้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ซึ่งได้กำหนดให้อยู่ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี ของรัฐบาล ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมและขนส่ง เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางในกรุงเทพฯ และปริมณฑลให้ทั่วถึงกัน เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ เป็นโครงการที่รัฐบาลให้ความสนใจ เร่งรัด ติดตามความก้าวหน้า เพื่อให้ทั้งสองโครงการเกิดขึ้นเป็นรูปธรรมโดยพร้อมเพรียงกัน เพื่อหวังบรรเทาปัญหาการจราจรอย่างเร่งด่วน
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ทำพิธีกดปุ่ม เพื่อเทคอนกรีตลงสู่ฐานราก ถือเป็นสัญลักษณ์เริ่มการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าโมโนเรลสองสายแรกของประเทศไทย (โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง) อย่างเต็มรูปแบบ
ทั้งนี้ รถไฟฟ้าทั้งสองสาย เป็นโครงการนำร่องภายใต้นโยบาย PPP Fast Track ของรัฐบาล ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเร่งรัดการดำเนินงานโครงการฯ ให้มีความรวดเร็ว รวมทั้งเปิดโอกาสให้เอกชนได้เข้าร่วมลงทุนในโครงการที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ต่างๆ ร่วมกับภาครัฐ เพื่อลดภาระด้านงบประมาณและหนี้สาธารณะของประเทศ โดย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ลงนามสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ กับ บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ กับ บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (EBM) ซึ่งกำหนดให้ภาครัฐเป็นผู้ลงทุนค่างานจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน และภาคเอกชนลงทุนค่างานโยธา ค่างานระบบรถไฟฟ้าและขบวนรถไฟฟ้า ค่าจ้างที่ปรึกษาโครงการ รวมทั้งบริหารการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการ โดยให้เอกชนร่วมลงทุนรวมเป็นเวลา 33 ปี 3 เดือน และแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 งานออกแบบและก่อสร้างงานโยธา พร้อมติดตั้งระบบและขบวนรถไฟฟ้า ระยะเวลา 3 ปี 3 เดือน และ ระยะที่ 2 งานให้บริการเดินรถและบำรุงรักษา ระยะเวลา 30 ปี โดยให้เอกชนเป็นผู้จัดเก็บค่าโดยสารและรับความเสี่ยงด้านจำนวนผู้โดยสารของโครงการ
ปัจจุบันการดำเนินงานระยะที่ 1 ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ มีความก้าวหน้าการก่อสร้างงานโยธาร้อยละ 3.10 (ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2561) ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ มีความก้าวหน้าการก่อสร้างงานโยธาร้อยละ 5.07 (ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2561) โดย รฟม. มั่นใจว่าจะสามารถก่อสร้างแล้วเสร็จ และทดลองระบบต่างๆ พร้อมเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปี 2564 ซึ่งใช้เวลาน้อยกว่าการก่อสร้างรถไฟฟ้าแบบ Heavy Rail หรือ ระบบขนส่งมวลชนหลัก ที่ต้องใช้ระยะเวลาก่อสร้างไม่น้อยกว่า 6 ปี ทั้งนี้ รถไฟฟ้าโมโนเรลทั้งสองสายจะช่วยเติมเต็มโครงข่ายการคมนาคมในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
สามารถติดตามรายละเอียดและข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ รฟม. www.mrta.co.th และเฟซบุ๊กแฟนเพจการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ Call Center รฟม. โทร. 0 2716 4044
——————————————–
กองสื่อสารองค์กร สำนักผู้ว่าการ
โทร. 0 2716 4000 ต่อ 1720
โทรสาร 0 2716 4019
Email : pr@mrta.co.t