7 กันยายน ยกเลิกช่องทางพิเศษจากแยกรัชดา-ลาดพร้าว ถึง แยกโชคชัย 4

โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองมีความจำเป็นต้องยกเลิกช่องทางพิเศษ บนถนนลาดพร้าว บริเวณแยกรัชดา-ลาดพร้าวถึง แยกโชคชัย 4 ตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน 2561 เป็นต้นไป

จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ทุกท่านที่จะเดินทางผ่านเส้นทางนี้ วางแผนก่อนการเดินทาง

และขออภัยในความไม่สะดวกมา ณโอกาสนี้ด้วย

จัดรถเมล์พิเศษแก้รถติดลาดพร้าว

พล.ต.ต.เอกลักษณ์ ลิ้มสังกาศ ผบก.ส.3 รองคณะทำงานติดตามผลบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจราจรในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล กล่าวว่า วันที่ 23 ส.ค.นี้  ที่ ขสมก. จะมีการประชุมคณะทำงานฯ มี พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผบช. สยศ.ตร. เป็นประธาน เพื่อติดตามการเตรียมความพร้อมการเดินรถเมล์พิเศษ 3 เส้นทาง เพื่อรองรับ
การเดินทางระหว่างการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง การก่อสร้างสะพานคนเดินข้ามหน้าสถานีขนส่งหมอชิต 2 และการแก้ไขปัญหาจุดเชื่อมต่อทางขึ้น-ลงทางด่วน
ทั้งนี้ ขสมก. เตรียมจัดเส้นทางเดินรถเมล์พิเศษ 3 เส้นทาง ได้แก่

1.สาย 168 ตลาดมีนบุรี-อนุสาวรีย์ชัยฯ เที่ยวไป เริ่มจากตลาดมีนบุรี ผ่าน ถนนสีหบุรานุกิจ เข้าถนนร่มเกล้า รามคำแหง เลี้ยวซ้ายเข้าถนนมอเตอร์เวย์ สาย 9 ผ่านด่านทับช้าง เข้าถนนมอเตอร์เวย์สาย 7 ขึ้นทางด่วน ผ่านด่านศรีนครินทร์ อโศก 4 ลงถนนพหลโยธิน เลี้ยวเข้าอนุสาวรีย์ชัยฯ ส่วนเที่ยวกลับ จากอนุสาวรีย์ชัยฯ เข้าถนนราชวิถี ดินแดง พระราม 9 ขึ้นทางด่วนที่ด่านพระราม 9 ไปออกถนนมอเตอร์เวย์ ผ่านด่านทับช้างถนนรามคำแหง ร่มเกล้า สิ้นสุดตลาดมีนบุรี
2.สาย 145 แพรกษา-หมอชิต 2 เที่ยวไป จากถนนบางปู ผ่านถนนแพรกษา ถนนสายลวด เข้าถนนสุขุมวิท ไปออกถนนศรีนครินทร์ เข้าถนนพระราม 9 ขึ้นทางด่วนศรีรัช ลงถนนเลียบด่วนรามอินทราฯ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนลาดพร้าว ตรงไปเข้าถนนพหลโยธิน กำแพงเพชร 2 สิ้นสุดหมอชิต 2 เที่ยวกลับ จากหมอชิต 2 ผ่านกำแพงเพชร พหลโยธิน เข้าถนนลาดพร้าว เลี้ยวซ้ายไปกลับรถเข้าถนนเลียบด่วนรามอินทราฯ ขึ้นทางด่วนไปลงถนนศรีนครินทร์ เลี้ยวขวาเข้าถนนสุขุมวิท ผ่านสายลวด แพรกษา สิ้นสุดถนนบางปู

3. สาย 32 อู่ท่าอิฐ-วัดโพธิ์ เที่ยวไป จากท่าอิฐ ผ่านถนนราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ สะพานพระราม 4 ปากเกร็ด ขึ้นด่วนแจ้งวัฒนะ ลงงามวงศ์วาน ผ่านแคราย เข้าติวานนท์ ไปตามเส้นทาง ปกติ สิ้นสุดวัดโพธิ์ เที่ยวกลับ จากวัดโพธิ์ผ่านถนนท้ายวัง มหาราช ถนนพระจันทร์ หน้าพระธาตุ ราชินี พระอาทิตย์ บางลำพู เข้าถนนสามเสน ประชาราษฎร์ ท่าน้ำนนท์ แยกแคราย ขึ้นด่วนงามวงศ์วาน ไปลงด่วนแจ้งวัฒนะ สิ้นสุดที่ปากเกร็ด
ด้านนายดำเกิง ปานขำ รองผู้ว่าการฝ่ายปฏิบัติการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กล่าวว่า เมื่อเช้าวันที่ 22 ส.ค. กทพ.เริ่มเปิดใช้ช่องทางพิเศษ บนทางพิเศษฉลองรัช หรือทางด่วนสายรามอินทรา-อาจณรงค์ ช่วงเข้าฝั่งขาออก 1 ช่องทาง ระยะทาง 5.7 กม. ปรากฏว่า การจราจร บนทางด่วนในช่องทางหลัก ฝั่งขาเข้า และช่องทางพิเศษฝั่งขาออก การจราจรคล่องตัว เฉพาะช่วง 5.7 กม. ใช้เวลาเดินทาง 5 นาที จากเดิม 10-15 นาที ทำให้ถนนพื้นราบก่อนถึงแยกถนนพระราม 9 ตัดเอกมัย รับและระบายรถไปอโศก-ดินแดงไม่ทัน มีท้ายแถวสะสมย้อนขึ้นมาบนทางด่วน ทางตำรวจ จราจรรับทราบปัญหาแล้วอยู่ระหว่างปรับจังหวะสัญญาณไฟให้สอดคล้องกับปริมาณรถ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :https://www.thairath.co.th/content/1360290

คาดว่าการจราจรในวันถัดไปจะดีขึ้น

รฟม. แจ้งปิดเบี่ยงจราจรบนถนนลาดพร้าว ตั้งแต่เชิงสะพานข้ามคลองบางซื่อ ถึง เชิงสะพานข้ามคลองลาดพร้าว เพื่อดำเนินการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2561 เป็นต้นไป ตลอด 24 ชั่วโมง

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง มีความจำเป็นต้องปิดเบี่ยงจราจรบนถนนลาดพร้าว ตั้งแต่บริเวณเชิงสะพานข้ามคลองบางซื่อ (ลาดพร้าว ซอย 43) ถึง          เชิงสะพานข้ามคลองลาดพร้าว (ลาดพร้าว ซอย 45/1) เพื่อดำเนินการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค โดยจะปิดช่องจราจร 1 ช่องทางขวา (ชิดเกาะกลาง) ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก ระยะทางประมาณ 350 เมตร ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2561 เวลา 22.00 น. เป็นต้นไป

ทั้งนี้ การปิดเบี่ยงจราจรเพื่อดำเนินการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ อาจทำให้ผู้ใช้เส้นทางไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง และการดำเนินงานอาจมีเสียงดังรบกวน ดังนั้น หากไม่มีความจำเป็นโปรดหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว รฟม. ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ โดยผู้ใช้เส้นทางสามารถ              สอบถามรายละเอียดการเบี่ยงจราจร ได้ที่เบอร์โทร 0 2610 4915 และ 09 8257 5555

———————————————————————————-

 

กองสื่อสารองค์กร สำนักผู้ว่าการ

โทร 0 2716 4000 ต่อ 1720

โทรสาร 0 2716 4019

Email : pr@mrta.co.th

 

 

รฟม. แจ้งปดิเบยี่งจราจรบนถนนลาดพรา้ว ตั้งแต่เชิงสะพานขา้ม คลองบางซื่อ ถึง เชิงสะพานข้ามคลองลาดพรา้ว เพื่อรื้อย้าย สาธารณูปโภค โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ตั้งแต่วนัที่ 20 สิงหาคม 2561 เป็นต้นไป ตลอด 24 ชั่วโมง

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า บริษัท ซิ โน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จ ากัด (มหาชน) ผู้รับจ้างก่อสร้างงาน โยธา โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – ส าโรง มีความจ าเป็นต้อง ปิดเบี่ยงจราจรบนถนนลาดพร้าว ตั้งแต่บริเวณเชิงสะพานข้ามคลองบางซื่อ (ลาดพร้าว ซอย 43) ถึง เชิงสะพานข้ามคลองลาดพร้าว (ลาดพร้าว ซอย 45/1) เพื่อด าเนินการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค โดยจะปิดช่องจราจร 1 ช่องทางขวา (ชิดเกาะกลาง) ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก ระยะทางประมาณ 350 เมตร ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2561 เวลา 22.00 น. เป็นต้น ไป ทั้งนี้ การปิดเบี่ยงจราจรเพื่อด าเนินการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค โครงการ รถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ อาจท าให้ผู้ใช้เส้นทางไม่ได้รับความสะดวกในการ เดินทาง และการด าเนินงานอาจมีเสียงดังรบกวน ดังนั้น หากไม่มีความจ าเป็น โปรดหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว รฟม. ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ โดยผู้ใช้ เส้นทางสามารถ สอบถามรายละเอียดการเบี่ยงจราจร ได้ที่เบอร์โทร 0 2610 4915 และ 09 8257 5555

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ :  https://www.dailynews.co.th/economic/660430

กทม.จับมือตำรวจแก้รถติดลาดพร้าว ตามคำสั่ง “ประวิตร”-ทุบเกาะรัชดา 32 ขยายทางลัดขยับ 21 ป้ายรถเมล์

ที่ศาลาว่าการ กทม. เมื่อวันที่ 9 ส.ค. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ได้เชิญผู้แทนหน่วยงาน อาทิ กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) สำนักการโยธา (สนย.) สำนักเทศกิจ (สทก.) ร่วมประชุม เพื่อวางแนวทางแก้ไขปัญหาการจราจรในพื้นที่กรุงเทพฯ ในระหว่างการก่อสร้างรถไฟฟ้า  พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ ผบก.จร. เปิดเผยว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขอให้ บก.จร.สำรวจพื้นที่ถนนทั่วกรุงเทพฯ พื้นที่ทางเลี่ยง ทางหลัก และเส้นทางที่จำเป็นต้องปรับปรุงกายภาพ เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯ โดยให้รายงานกลับมายัง กทม.ภายใน
7 วัน เพื่อพิจารณาผลสำรวจและวางแผนแก้ไขปัญหาร่วมกัน ทั้งนี้ กทม.จะเป็นหน่วยงานหลักในการสนับสนุนการปรับปรุงกายภาพถนน และการจัดทำป้ายบอกเส้นทางลัด เส้นทางเลี่ยง เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการเดินทาง

สำหรับการแก้ไขปัญหาการจราจรบริเวณโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าที่ถนนลาดพร้าว ซึ่ง บก.จร.เสนอให้ปาดเกาะกลางถนนบริเวณหน้าห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว และหน้าซอย รัชดาฯ 32 ซึ่งผู้ว่าฯ กทม.เห็นด้วย และพร้อมสนับสนุนการดำเนินงาน คาดว่าจะสามารถเริ่มทุบเกาะกลางถนนหน้าซอยรัชดาฯ 32 ได้ในวันที่ 11 ส.ค.นี้ เน้นการทำงานช่วงกลางคืนจะแล้วเสร็จประมาณวันที่ 14 ส.ค. นอกจากนี้ บก.จร.ขอให้ปรับจุดจอดรถประจำทางในถนนลาดพร้าวจำนวน 21 จุด ที่ส่งผลให้การจราจรในพื้นที่ชะลอตัว โดยจุดที่ปรับนั้นจะทำเป็นที่พักรอรถประจำทางชั่วคราวและจะปรับห่างจากจุดเดิมไม่มากนัก เพื่อไม่ให้กระทบต่อการเดินทางประชาชน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการแก้ไขในเบื้องต้นนี้ จะช่วยบรรเทาการจราจรได้ดีขึ้น
พ.ต.อ.ธวัช วงศ์สง่า รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 (รอง ผบก.น.4) เปิดเผยว่า การแก้ปัญหาการจราจรบริเวณถนนลาดพร้าว เบื้องต้นจะแก้ไขกายภายถนน คือทุบเกาะกลางถนนหน้าซอยรัชดาภิเษก 32 เขตจตุจักร เพื่อแบ่งเบารถมาจากถนนรัชดาภิเษก, พระราม 9 ที่จะเข้าถนนลาดพร้าว โดยรถสามารถวิ่งตรงข้ามแยกรัชดา-ลาดพร้าว แล้วมาเลี้ยวบริเวณที่ทุบเกาะกลางออก เพื่อเข้าซอยรัชดาฯ 32 เป็นเพิ่มทางเลือก ซึ่งซอยรัชดาฯ 32 หรือซอยภาวนา  สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนสายอื่นๆ ได้หลายเส้นทาง เช่น ถ.ลาดพร้าววังหิน, ประดิษฐ์– มนูธรรม, ลาดพร้าว 71, ซอยภาวนา, โชคชัย 4, เกษตรนวมินทร์ เป็นต้น
รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรในพื้นที่กรุงเทพฯ บริเวณที่มีการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าครั้งนี้ สืบเนื่องจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้ กทม.ตั้งคณะกรรมการแก้ปัญหาจราจร ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อบรรเทาปัญหาจากก่อสร้างโครงการต่างๆในพื้นที่กรุงเทพฯที่ส่งผลกระทบต่อการจราจร โดย กทม.จะหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหา เช่น การทำจุดกลับรถ ทำป้ายจราจรแนะนำเส้นทางเลี่ยง เส้นทางลัด เพื่อเชื่อมไปยังถนนอื่น ๆ เป็นต้น.
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.thairath.co.th/content/1351850

รฟม. แจ้งปิดเบี่ยงช่องจราจรบนถนนศรีนครินทร์ บริเวณแยกลำสาลี 3 จุด เพื่อดำเนินการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง ตั้งแต่วันที่ 10 – 30 สิงหาคม 2561 เวลา 22.00 น. เป็นต้นไป ตลอด 24 ชั่วโมง

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์  คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง มีความจำเป็นต้องปิดเบี่ยงช่องจราจรบนถนนศรีนครินทร์ บริเวณแยกลำสาลี 3 จุด เพื่อดำเนินการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค ตั้งแต่วันที่ 10 – 30 สิงหาคม 2561 เวลา 22.00 น. เป็นต้นไป ตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีรายละเอียดดังนี้

จุดที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 10 – 16 สิงหาคม 2561 (7 วัน) ปิดช่องจราจรบนถนนศรีนครินทร์ ฝั่งขาออก           มุ่งหน้าแยกพัฒนาการ 1 ช่องทางขวา (ชิดเกาะกลาง) ระยะทางประมาณ 40 เมตร ตลอด 24 ชั่วโมง

จุดที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 17 – 23 สิงหาคม 2561 (7 วัน) ปิดช่องจราจรบนถนนศรีนครินทร์ ฝั่งขาเข้า           มุ่งหน้าแยกบางกะปิ 1 ช่องทางขวา (ชิดเกาะกลาง) ระยะทางประมาณ 40 เมตร ตลอด 24 ชั่วโมง

จุดที่ 3   ตั้งแต่วันที่ 24 – 30 สิงหาคม 2561 (7 วัน) ปิดช่องจราจรบนถนนศรีนครินทร์ ฝั่งขาออก มุ่งหน้าแยกพัฒนาการ ช่องทางที่ 2 (นับจากเกาะกลาง) ระยะทางประมาณ 40 เมตร ตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ การปิดช่องจราจรเพื่อดำเนินการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค อาจทำให้ผู้ใช้เส้นทางไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง และการดำเนินงานอาจมีเสียงดังรบกวน ดังนั้น หากไม่มีความจำเป็นโปรดหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว รฟม. ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ โดยผู้ใช้เส้นทางสามารถสอบถามรายละเอียดการเบี่ยงจราจร ได้ที่เบอร์โทร 0 2610 4915 และ 09 8257 5555

———————————————————————————-

กองสื่อสารองค์กร สำนักผู้ว่าการ

โทร 0 2716 4000 ต่อ 1720

โทรสาร 0 2716 4019

Email : pr@mrta.co.th

Sois named for Yellow Line detours

Transport: Three sois on Ratchadaphisek Road will be used as detours for motorists to avoid Lat Phrao Road, which is clogged with traffic because of construction work. The decision on the detours was reached at a Police Strategy Office (PSO) meeting yesterday to deal with the traffic problem on and around Lat Phrao Road where construction of the Yellow Line train project is under way. PSO deputy commissioner, Pol Maj Gen Jirapat Phumijit, said Ratchadaphisek sois 30, 32 and 36 will be the detours to bypass traffic from Ratchadaphisek Road to the Chokechai 4, Wang Hin, Pasert Manukij, Pradit Manutham and Lat Plakao areas without going through Lat Phrao.
The detours will be in effect during morning and evening rush hours when a parking ban will be placed in the three sois. Traffic islands on Ratchadaphisek Road  will be cut in places to allow vehicles to make U-turns and enter the sois.

read more  :  https://www.bangkokpost.com

เตรียมเจาะเกาะกลางถนน หน้าศาลอาญาเพิ่มจุดกลับรถ แก้ปัญหารถติดลาดพร้าว

ตำรวจนครบาลแก้ปัญหาจราจรถนนลาดพร้าว เนื่องจาก ผลกระทบจากการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง ที่จะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี

เบื้องต้นจะมีการตัดเกาะกลางถนน เส้นรัชดาภิเษก ด้านหน้าศาลอาญารัชดา เพื่อใช้เป็นจุดกลับรถ รองรับรถที่เข้าใช้เส้นทางลัดซอยรัชดา 30, 32 และ 36 ออกไปทางโชคชัย 4 ถนนลาดพร้าว-วังหิน ถนนประเสริฐมนูกิจ ถนนประดิษฐมนูธรรม และลาดปลาเค้า

 

โดยจะห้ามจอดรถในซอยลัดดังกล่าวในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าเย็น หากฝ่าฝืนจะถูกยกรถทันที รวมทั้ง ขยับย้ายป้ายรถประจำทาง 21 จุด ตลอดเส้นทางถนนลาดพร้าวขาออก ให้เหลื่อมกับแนวแบริเออร์ก่อสร้างรถไฟฟ้า เพื่อไม่ให้กระทบช่องจราจร และขอใช้ลานบริเวณหน้าบิ๊กซีลาดพร้าวในการจอดรถประจำทางรับส่งประชาชน

ส่วนการย้ายระบบสาธารณูปโภค อาทิ เสาไฟฟ้า สายสัญญาณโทรศัพท์ จะให้ดำเนินการเพื่อไม่ให้กระทบการจราจร นอกจากนี้ จะมีปรับเปลี่ยนเป็นแท่งแบริเออร์ปูนเป็นพลาสติกในบางจุด เพื่อสามารถปรับพื้นที่แนวก่อสร้างรถไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://morning-news.bectero.com/social-crime/08-Aug-2018/127665

ห้ามจอดในซอยลัด-ย้ายป้ายรถเมล์21จุด แก้รถติดถนนลาดพร้าว

ตร.ลุยแก้รถติดถนนลาดพร้าวจากการสร้างรถไฟฟ้า ห้ามจอด ในเส้นทางลัดในซอยชั่วโมงเร่งด่วน ขยับป้ายรถเมล์ 21 จุด ตัดเกาะกลาง ถนนหน้าศาลอาญาเพิ่มจุดกลับรถ เมื่อวันที่ 7 ส.ค. พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผู้บัญชาการส านักงานยุทธศาสตร์ พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการ (รอง ผบช.น.) ร่วมประชุม คณะท างานแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในถนนลาดพร้าว เนื่องจาก ผลกระทบจากการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-ส าโรง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรุงเทพมหานคร การรถไฟฟ้าขนส่ง มวลชนแห่งประเทศไทย องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ กรมการขนส่งทางบก การไฟฟ้านครหลวง พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวภายหลังประชุม ว่า เบื้องต้น จะมีการตัดเกาะ กลางถนน เส้นรัชดาภิเษก ด้านหน้าศาลอาญารัชดา เพื่อใช้เป็นจุดกลับรถ รองรับรถเข้าใช้เส้นทางลัดซอยรัชดาภิเษก 30, 32 และรัชดาภิเษก 36 ออกไปทางถนนโชคชัย4 ลาดพร้าว-วังหิน ประเสิรฐมนูกิจ ประดิษฐมนูธรรม และถนนลาดปลาเค้า นอกจากนี้เจ้าหน้าที่จะห้ามจอดรถในซอยเส้นทางลัดในชั่วโมงเร่งด่วนเช้าเย็น หากฝ่าฝืนจะถูกยกรถทันที รวมทั้ง ขยับย้ายป้ายรถประจ าทาง จ านวน 21 จุดตลอดเส้นทางถนนลาดพร้าว ขาออก ให้เหลื่อมกับแนวแบริเออร์ ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า เพื่อไม่ให้กระทบช่องทางจราจร และขอใช้ลาน บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี ลาดพร้าว ในการจอดรถรับ-ส่ง ผู้โดยสาร
ส าหรับรถประจ าทางเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้กระทบช่องทางจราจร และขอ ใช้ลานบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี ลาดพร้าว ในการจอดรถรับ-ส่ง ผู้โดยสาร ส าหรับรถประจ าทางเพิ่มเติม ส่วนการย้ายระบบสาธารณูปโภค อาทิ เสาไฟฟ้า สายสัญญาณโทรศัพท์ จะให้ด าเนินการเพื่อไม่ให้กระทบ การจราจร นอกจากนี้ จะมีการน าแท่งแบริเออร์เป็นพลาสติก มาวางบริเวณ แนวก่อสร้างชั่วคราวเพื่อศึกษาผลกระทบการจราจรในแนวก่อสร้าง สามารถ ปรับพื้นที่แนวก่อสร้างรถไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็วในชั่วโมงเร่งด่วน ขณะที่ พล.ต.ท.ไกรบุญ กล่าวว่า จากนี้จะน าเสนอแนวทางแก้ปัญหา จราจรถนนลาดพร้าว ให้ทางรัฐบาลรับทราบ ก่อนจะมีการชี้แจงผ่านรายการ เดินหน้าประเทศไทย เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับทราบเป็นวง กว้างต่อไป

อ่านเพืมเติมได้ที่  https://www.posttoday.com/social/general/560138

City’s busiest road just got far worse

Commuters who rely on Lat Phrao Road in Bangkok are set for three more years of even heavier congestion as police ramp up traffic diversions from Wednesday to make way for construction of the Mass Rapid Transit Authority of Thailand’s (MRTA) Yellow Line monorail.
The diverted traffic is likely to worsen tailbacks on a street notorious for its traffic jams. It will affect a 9km stretch and deputy project manager Kitti Akewanlop said yesterday it could take three years to complete.

As a result, instead of three lanes running in either direction, motorists will have to make do with two or one. Meanwhile, starting Wednesday, central road barriers that provide left or right turns into adjacent streets will be closed from Lat Phrao sois 61 to 87 until the construction work has been finished, meaning longer waits for U-turns.
All such openings running along a 9km stretch from Bang Kapi to Chokechai Si will be closed by Aug 20 so pillars for the electric train line can be embedded in the central island, officials said.
etropolitan Police Bureau deputy commissioner Chiraphat Bhumichitr said commuters would have to enter the start or end of Lat Phrao Road and take U-turns instead.
“During this period we recommend people avoid using Lat Phrao Road whenever possible,” he said.
Pol Maj Gen Chiraphat said the Traffic Police Division has instructed the MRTA and the contractor of the Yellow Line to install more signs informing commuters about shortcuts in the area.
Most of the suggestions involve avoiding the main road and using smaller streets or surrounding roads instead like Nawamin, Prasert-Manukitch, Phahon Yothin and Ratchadaphisek roads.
According to traffic police reports, Lat Phrao Road handles more than 4,000 vehicles per hour.
Several city buses under the Bangkok Mass Transit Authority of Thailand (BMTA) also use this route including the No.8, making it one of the most popular routes in Bangkok.
“We will have to hold talks with the BMTA on where the buses will stop on the road during the construction of the Yellow Line to minimise congestion,” Pol Maj Gen Chiraphat said.

As for Chokechai Si market, where vendors park temporarily to drop their things off or pick up products, we’ve instructed local traffic police to strictly enforce the no-parking rule.” (Story continues…
Construction of the feeder-system-style monorail, which stretches 30km from Lat Phrao to Samrong, began late last month. Yet the effect on commuters was not fully felt until Wednesday.
Upon completion the 23-station network will start from the Ratchada-Lat Phrao intersection and will share stations with the MRT Blue Line at Lat Phrao station.
It will then run along Lat Phrao Road until it reaches the Bang Kapi intersection, located near The Mall Bang Kapi.
Turning right into Lam Sali in Ramkhamhaeng Road, it will connect to the planned MRTA Orange Line’s Lam Sali Station. The route then continues straight, connecting to the Airport Rail Link’s Hua Mak Station
Finally it makes a left into Theparak Road in Samut Prakan where it terminates at Samrong but can link to the BTS Green Line’s station of the same name.
Traffic in Lat Phrao has been made worse due to the ongoing construction of the Orange Line’s eastern route from the Thailand Cultural Centre to Min Buri, which began earlier this year. When finished in2023 it will run from Taling Chan to Min Buri.
The Yellow Line, along with its sister project, the Pink Line monorail from Khae Rai (in Nonthaburi) to Min Buri, will be the first monorail networks in Thailand when they are finished.
The Bangkok Mass Transit System Plc, which operates the BTS Green Line, is set to operate the routes. A joint consortium also comprising Sino-Thai Engineering and Construction Plc and Ratchaburi Electricity Generating Holding Plc won the bids for both routes back in December 2016.
Road diversions for the Pink Line already started in November. The 34.5km route is worth 53.5 billion baht. The 30km Yellow Line is valued at around 51.9 billion baht.
second public hearing for a proposed extension of the Yellow Line from the Ratchada-Lat Phrao intersection to Ratchayothin intersection was held earlier this month. It will link to extensions to the Green Line starting from Mor Chit

อ่านเพิ่มเติมได้ที่   https://www.bangkokpost.com/news/general/1513362/citys-busiest-road-just-got-far-worse