งานด่วน ผู้ว่า รฟม.คนใหม่ เร่งแจกสัมปทานรถไฟฟ้า 3 แสนล้าน

สัมภาษณ์พิเศษ

หลังใช้เวลาเกือบปีในการสรรหา ในที่สุดคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ “ภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ” รั้งเก้าอี้ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) คนที่ 6 เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา

สำหรับ “ภคพงศ์” ปัจจุบันอายุ 54 ปี ดีกรีวิศวกรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และปริญญาโทวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต Lamar University, U.S.A. เป็นลูกหม้อ รฟม.มีสไตล์การทำงานออกแนวบู๊ เติบโตตามสายงานก่อสร้าง จากตำแหน่งวิศวกรธรรมดา ได้เลื่อนชั้นเป็นรองผู้ว่าการด้านวิศวกรรมและก่อสร้าง จนได้รั้งเก้าอี้ใหญ่คุมงานก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 แสนล้าน

“ภคพงศ์” เปิดใจกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภารกิจแรกหลังรับตำแหน่งเม.ย.นี้ จะเร่งเปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ วงเงิน 101,112 ล้านบาท แยกเป็น 6 สัญญา จะประกาศเชิญชวนกลางปีนี้ รวมถึงเร่งสายสีส้มตะวันตกช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ 90,271 ล้านบาทให้เริ่มต้นประกวดราคาภายในปีนี้

นอกจากนี้ จะเร่งเปิดประมูล PPP หาเอกชนเดินรถไฟฟ้า 2 สายทาง ได้แก่ สายสีส้มตลอดสายจากบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี ระยะทาง 34.6 กม. วงเงิน 35,000-40,000 ล้านบาท ล่าสุดทางบริษัทที่ปรึกษาอยู่ระหว่างวิเคราะห์จะเป็นรูปแบบ PPP net cost คือ เอกชนรับสัมปทานเป็นผู้จัดเก็บรายได้และแบ่งรายได้ให้แก่ภาครัฐเหมือนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน หรือ PPP gross cost ภาครัฐเป็นผู้จัดเก็บรายได้และจ้างเอกชนเดินรถ โดยจ่ายผลตอบแทนแบบกำหนดราคาเหมือนรถไฟฟ้าสายสีม่วง

“ยังไม่สรุป แต่สายสีม่วงใต้ ระยะทาง 23.6 กม. วงเงินกว่า 20,000 ล้านบาท เนื่องจากสายสีม่วงช่วงเตาปูน-คลองบางไผ่ เป็นรูปแบบ PPP gross cost โดย รฟม.จ้าง BEM เดินรถให้ 30 ปี ก็มีโอกาสสูงที่สายสีม่วงใต้จะใช้รูปแบบเดียวกัน เพื่อให้การเดินรถต่อเชื่อมกันด้วยเอกชนรายเดียว”

การจัดหาเอกชนร่วมลงทุน PPP ในส่วนของงานเดินรถ ด้วยขั้นตอนต่าง ๆ ต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ อาจจะใช้เวลาพอสมควร คาดว่าภายในเดือน มิ.ย.นี้จะนำการเดินรถของสายสีส้มให้ที่ประชุมคณะกรรมการ PPP พิจารณา จากนั้นไตรมาสที่ 3 จะเริ่มเปิดประกวดราคา ขณะที่สายสีม่วงใต้อาจจะล่าช้าออกไป 2 เดือน เนื่องจากบริษัทที่ปรึกษายังทำรายละเอียดไม่สมบูรณ์ แต่ยังไงจะเร่งเปิดประมูลภายในปีนี้

“ผู้ว่าการรถไฟฟ้าป้ายแดง” ยังบอกอีกว่า อีกหนึ่งภารกิจเฉพาะหน้า คือเร่งประสานกรมทางหลวงและกรุงเทพมหานคร ขอใช้พื้นที่ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูแคราย-มีนบุรี กับสายสีเหลืองลาดพร้าว-สำโรง โดยจะเร่งเคลียร์ให้จบและส่งมอบพื้นที่ให้กลุ่มบีเอสอาร์ (บีทีเอส-ซิโน-ไทยฯ-ราชบุรีโฮลดิ้งส์) ผู้ลงทุนก่อสร้างโครงการภายในเดือน พ.ค.นี้ เพื่อเริ่มนับหนึ่งงานก่อสร้างตามสัญญา โดยทั้ง 2 โครงการพร้อมเปิดบริการในปี 2564

ขณะที่โครงการลงทุนในภูมิภาคจะเร่งลงทุนโมโนเรล จ.ภูเก็ต เป็นลำดับแรก ล่าสุดกำลังศึกษารูปแบบ PPP ให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน วงเงิน 23,499 ล้านบาท คาดว่าจะเสนอให้คณะกรรมการ PPP ภายในปีนี้

อีกทั้งยังจะต้องเร่งหารายได้จากการพัฒนาเชิงพาณิชย์ควบคู่ไปด้วย ขณะนี้รอแก้ไขกฎหมายให้อำนาจ รฟม.สามารถนำที่ดินมีมูลค่าเกิน 10 ล้านบาท มาพัฒนาได้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งได้นำเสนอข้อมูลไปยังคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติแล้ว

ตามแผนจะมีที่ดินศูนย์ซ่อมตรงพระราม 9 พื้นที่จอดแล้วจรตามสถานีที่อยู่กลางเมือง เช่น สามย่าน ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ รัชดาภิเษก พัฒนาเป็นคอมมิวนิตี้มอลล์เล็ก ๆ อีกทั้งยังมีโครงการ TOD นำที่ดินรอบสถานีมาพัฒนาเชิงพาณิชย์ เช่น สถานีคลองบางไผ่ สถานีเพชรเกษม 48 สถานีมีนบุรี หรือพื้นที่จอดแล้วจรขนาดใหญ่ ๆ

“ภคพงศ์” ย้ำว่า การผลักดันงานให้เดินไปข้างหน้าได้ตามเป้าหมาย สิ่งสำคัญที่สุดคือองค์กรที่ต้องทำงานเป็นทีม เป็นหนึ่งเดียวกัน ต้องเปิดใจ และจะไม่มีการแบ่งพรรคแบ่งขั้วเหมือนที่ผ่านมา

เพิ่มเติม : https://www.prachachat.net

แก้แบบสีชมพู เวนคืนแยกหลักสี่เพิ่ม

สีเหลืองย้ายที่ตั้งปาร์กแอนด์ไรด์สถานีวัดศรีเอี่ยม-ทางหลวงเสนอ รฟม.
นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ได้ประชุมหารือร่วมกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) บริษัท ซิโน-ไทยฯ ผรับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี และสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง

อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1240787

แก้แบบสีชมพู เวนคืนแยกหลักสี่เพิ่ม

สีเหลืองย้ายที่ตั้งปาร์กแอนด์ไรด์สถานีวัดศรีเอี่ยม-ทางหลวงเสนอ รฟม. นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ได้ประชุมหารือร่วมกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) บริษัท ซิโน-ไทยฯ ผู้รับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี และสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง

อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th

เร่งเปิดรีเวิร์สด่วนอาจณรงค์ขุดก่อสร้างรถติดสาหัส

บก.จร.เร่งศึกษาความเหมาะสม พร้อมประสานกับการทางฯให้เปิดได้เร็วที่สุด หวั่นในพื้นราบติดขัดมากขึ้น อาทิตย์ที่ 25 มีนาคม 2561 เวลา 16.30 น.

พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจราจราจร (ผบก.จร.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการเปิดการจราจรช่องทางพิเศษบนทางด่วนรามอินทรา-เอกมัย ว่า ภายหลังจากที่กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ได้มีการศึกษาความเหมาะสมในการเปิดช่องทางพิเศษ หรือรีเวิร์สซิเบิลเลนส์ บนทางด่วนรามอินทรา-เอกมัย เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด เนื่องจากได้รับผลกระทบมาจากการปิดก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก ในถนนรามคำแหง เพราะประชาชนโดยส่วนมากจะเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว และหันมาใช้ทางด่วนและถนนประดิษฐ์มนูธรรมเพิ่มมากขึ้น โดยจากการศึกษาเบื้องต้น เห็นว่าสามารถดำเนินการได้ ซึ่งทางตำรวจราจรได้เสนอไปยังการทางพิเศษพิเศษแห่งประเทศไทยแล้ว เพื่อขอดำเนินการปรับกายภาพด้านบนโดยการปรับปรุงและเปิดแบริเออร์ออก เพื่อใช้เป็นช่องทางกลับเข้าสู่ช่องทางปกติ และช่องทางออกสู่ช่องรีเวิร์สซิเบิลเลน โดยขณะนี้การทางพิเศษฯแจ้งว่าอยู่ระหว่างการจัดสรรงบประมาณในการดำเนินการ เนื่องจากการปรับปรุงจะต้องมีค่าใช้จ่าย

อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th

ตลาดคอนโดแนวรถไฟฟ้าสายใหม่คึกคัก

นักวิจัยตลาดชี้คอนโดเกาะรถไฟฟ้าสายสีส้ม ชมพู เหลือง ไม่น่าห่วงเท่าสายสีม่วง หลังมีบทเรียนปิดการขายช้า นายสุรเชษฐ กองชีพ นักวิจัยตลาดอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า โครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวเกาะแนวรถไฟฟ้าสายสีส้ม…….

อ่านต่อได้ที่ : https://www.posttoday.com

ยกค่าฝุ่นจิ๋วกทม.เป็นภัยพิบัติ อนาคตก่อสร้างอื้อวิกฤตหนักแน่

อดีตอธิบดีคพ.ยกค่าฝุ่นละอองPM2.5ในกทม.เป็นภัยพิบัติ เร่งแก้ปัญหาจราจรห้ามจอดรถริมถนน-จำกัดรถยนต์เข้าเมือง “กทม.”ชี้5ปีจากนี้โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า-อาคารใหม่130แห่งทำฝุ่นพิษเมืองกรุงวิกฤตหนัก

ศุกร์ที่ 23 มีนาคม 2561 เวลา 16.23 น.

เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ที่กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) มีการจัดเสวนาหัวข้อ “หาทางออกร่วมกันในการลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร” โดยนายสุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา อดีตอธิบดีคพ.และอาจารย์คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า จากสถิติค่าฝุ่นละออง PM2.5 เมื่อปี 2556 เปรียบเทียบกับปี 2560 ค่าฝุ่นละอองลดลงร้อยละ 25 แต่ค่าฝุ่นที่ลดลงไม่ได้บอกว่าให้วางใจ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นทุกปี สิ่งที่หน่วยงานราชการควรทำคือชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจและรับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง ทั้งนี้การแก้ปัญหาต้องเกาให้ถูกที่คัน สภาพอากาศที่เป็นตัวแปร ส่วนแหล่งกำเนิดฝุ่นละอองมาจากการเผาไหม้ของดีเซลจากการจราจรและอุตสาหกรรม ร้อยละ 52 เกิดจากการเผาร้อยละ 35 และเกิดจากการแปรปรวนของของสภาพอากาศผนวกกับการปล่อยมลพิษจากแหล่งกำเนิดมลพิษต่างๆ ดังนั้นเห็นจำเป็นต้องใช้มาตรการระยะยาวเพื่อลดค่าเฉลี่ยฝุ่นละออง PM2.5 ควบคู่กับการใช้มาตรการระยะสั้น 3 เดือน เป็นมาตรการเฉพาะกิจ ช่วงเดือนก.พ.-เม.ย. ของทุกปี และเห็นควรยกระดับขึ้นเป็นภัยพิบัติของประเทศ…

อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th

ทล.ให้ รฟม.เข้าพื้นที่สำรวจรถไฟฟ้าสายสีเหลือง

รายงานข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า ขณะนี้กรมทางหลวง อนุญาตให้ผู้รับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง เข้าพื้นที

อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1126404

ออกกฎเหล็กคุมเข้ม4ด้านโครงการสร้างรถไฟฟ้า

กทม.คุมเข้มผู้รับเหมาสร้างรถไฟฟ้า ห้ามขุดเจาะสร้างมลพิษและปัญหาจราจร หากละเลยไม่ปฏิบัติตามระงับการก่อสร้างทันที

นายวันชัย ถนอมศักดิ์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า จากปัญหาการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค หรือโครงการก่อสร้างไฟฟ้าต่างๆ ที่ผ่านมา ซึ่งกระทบต่อระบบระบายน้ำ ปิดทางน้ำไหล ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขัง กระทบต่อสภาพพื้นที่ในหลายๆ บริเวณ อีกทั้งการก่อสร้างยังทำแผนการดูแลพื้นที่ไม่เหมาะสม ไม่ครอบคลุมถึงปัญหาสภาพแวดล้อมอย่างรอบด้าน ทำให้เกิดมีส่วนสร้างปัญหา ฝุ่นละอองฝุ่งกระจาย สร้างปัญหาการจราจรติดขัดขึ้น ทำให้กทม.ต้องเร่งวางแผนการบริหารจัดการโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ต่างๆ ในพื้นที่เพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งขณะนี้กรุงเทพฯจะเกิดโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าขนาดใหญ่ อีก 3 โครงการ ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ซึ่งโครงการดังกล่าวจะก่อสร้างตัดผ่านในถนนสายหลักของพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งถนนแจ้งวัฒนะ ถนนลาดพร้าว ถนนศรีนครินทร์ ถนนรามคำแหง โดยแต่ละเส้นทางต้องมีการบริหารจัดการอย่างเหมาะสม ไม่ให้กระทบต่อปัญหาการจราจรและฝุ่นละอองเพิ่มเติมยิ่งขึ้น…

อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th

คมนาคมมั่นใจ ครม.อนุมัติรถไฟฟ้าครบ 10 สายปีนี้

กระทรวงคมนาคมมั่นใจ ครม. อนุมัติโครงการรถไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ครบ 10 เส้นทางภายในปีนี้ โดยหากสร้างเสร็จจะทำให้ประชาชนเดินทางสะดวกมากขึ้น


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม อาคม เติมพิทยาไพสิฐ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีจะพิจารณาอนุมัติโครงการรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจำนวน 10 เส้นทาง ระยะทาง 464 กิโลเมตร ได้ครบภายในปีนี้ ซึ่งได้แก่ สายสีแดงเข้ม รังสิต-ธรรมศาสตร์ สายสีแดงอ่อน บางซื่อ-หัวหมาก สายสีเหลืองลาดพร้าว-สำโรง สายสีชมพู แคราย-มีนบุรี สายสีส้มศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี และสายสีน้ำตาล แคราย-บึ่งกุ่ม และหากก่อสร้างแล้วเสร็จทุกเส้นทางจะทำให้ประชาชนเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น ลดปัญหาการจราจรได้
นอกจากนี้กระทรวงคมนาคมเตรียมออกแผนแม่บทพัฒนาระบบรถไฟฟ้าระยะที่ 3 เชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนอย่างครบวงจร ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา

เพิ่มเติม : http://www.nationtv.tv

‘อาคม’ มั่นใจ ครม.อนุมัติรถไฟฟ้าครบ10สาย ภายในปี61

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า สำหรับโครงการระบบรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจำนวน 10 เส้นทาง 464 กิโลเมตร ประกอบด้วย สายสีแดงเข้ม รังสิต-ธรรมศาสตร์ สีแดงอ่อน บางซื่อ-หัวหมาก สีเหลืองลาดพร้าว-สำโรง สีชมพู แคราย-มีนบุรี สีส้มศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี และสายสีน้ำตาล แคราย-บึ่งกุ่ม โดยแต่ละเส้นทางอยู่ระหว่างสร้าง ทั้งนี้มั่นใจว่า คณะรัฐมนตรีจะพิจารณาอนุมัติได้ครบทุกเส้นทางภายในปีนี้ และหากก่อสร้างแล้วเสร็จทุกเส้นทางจะทำให้ประชาชนเดินทางจากนอกเมืองเข้ามาในเมืองสะดวกยิ่งขึ้น ลดปัญหาการจราจรหนาแน่นได้

เพิ่มเติม : http://www.bangkokbiznews.com