จัดรถเมล์พิเศษแก้รถติดลาดพร้าว

พล.ต.ต.เอกลักษณ์ ลิ้มสังกาศ ผบก.ส.3 รองคณะทำงานติดตามผลบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจราจรในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล กล่าวว่า วันที่ 23 ส.ค.นี้  ที่ ขสมก. จะมีการประชุมคณะทำงานฯ มี พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผบช. สยศ.ตร. เป็นประธาน เพื่อติดตามการเตรียมความพร้อมการเดินรถเมล์พิเศษ 3 เส้นทาง เพื่อรองรับ
การเดินทางระหว่างการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง การก่อสร้างสะพานคนเดินข้ามหน้าสถานีขนส่งหมอชิต 2 และการแก้ไขปัญหาจุดเชื่อมต่อทางขึ้น-ลงทางด่วน
ทั้งนี้ ขสมก. เตรียมจัดเส้นทางเดินรถเมล์พิเศษ 3 เส้นทาง ได้แก่

1.สาย 168 ตลาดมีนบุรี-อนุสาวรีย์ชัยฯ เที่ยวไป เริ่มจากตลาดมีนบุรี ผ่าน ถนนสีหบุรานุกิจ เข้าถนนร่มเกล้า รามคำแหง เลี้ยวซ้ายเข้าถนนมอเตอร์เวย์ สาย 9 ผ่านด่านทับช้าง เข้าถนนมอเตอร์เวย์สาย 7 ขึ้นทางด่วน ผ่านด่านศรีนครินทร์ อโศก 4 ลงถนนพหลโยธิน เลี้ยวเข้าอนุสาวรีย์ชัยฯ ส่วนเที่ยวกลับ จากอนุสาวรีย์ชัยฯ เข้าถนนราชวิถี ดินแดง พระราม 9 ขึ้นทางด่วนที่ด่านพระราม 9 ไปออกถนนมอเตอร์เวย์ ผ่านด่านทับช้างถนนรามคำแหง ร่มเกล้า สิ้นสุดตลาดมีนบุรี
2.สาย 145 แพรกษา-หมอชิต 2 เที่ยวไป จากถนนบางปู ผ่านถนนแพรกษา ถนนสายลวด เข้าถนนสุขุมวิท ไปออกถนนศรีนครินทร์ เข้าถนนพระราม 9 ขึ้นทางด่วนศรีรัช ลงถนนเลียบด่วนรามอินทราฯ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนลาดพร้าว ตรงไปเข้าถนนพหลโยธิน กำแพงเพชร 2 สิ้นสุดหมอชิต 2 เที่ยวกลับ จากหมอชิต 2 ผ่านกำแพงเพชร พหลโยธิน เข้าถนนลาดพร้าว เลี้ยวซ้ายไปกลับรถเข้าถนนเลียบด่วนรามอินทราฯ ขึ้นทางด่วนไปลงถนนศรีนครินทร์ เลี้ยวขวาเข้าถนนสุขุมวิท ผ่านสายลวด แพรกษา สิ้นสุดถนนบางปู

3. สาย 32 อู่ท่าอิฐ-วัดโพธิ์ เที่ยวไป จากท่าอิฐ ผ่านถนนราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ สะพานพระราม 4 ปากเกร็ด ขึ้นด่วนแจ้งวัฒนะ ลงงามวงศ์วาน ผ่านแคราย เข้าติวานนท์ ไปตามเส้นทาง ปกติ สิ้นสุดวัดโพธิ์ เที่ยวกลับ จากวัดโพธิ์ผ่านถนนท้ายวัง มหาราช ถนนพระจันทร์ หน้าพระธาตุ ราชินี พระอาทิตย์ บางลำพู เข้าถนนสามเสน ประชาราษฎร์ ท่าน้ำนนท์ แยกแคราย ขึ้นด่วนงามวงศ์วาน ไปลงด่วนแจ้งวัฒนะ สิ้นสุดที่ปากเกร็ด
ด้านนายดำเกิง ปานขำ รองผู้ว่าการฝ่ายปฏิบัติการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กล่าวว่า เมื่อเช้าวันที่ 22 ส.ค. กทพ.เริ่มเปิดใช้ช่องทางพิเศษ บนทางพิเศษฉลองรัช หรือทางด่วนสายรามอินทรา-อาจณรงค์ ช่วงเข้าฝั่งขาออก 1 ช่องทาง ระยะทาง 5.7 กม. ปรากฏว่า การจราจร บนทางด่วนในช่องทางหลัก ฝั่งขาเข้า และช่องทางพิเศษฝั่งขาออก การจราจรคล่องตัว เฉพาะช่วง 5.7 กม. ใช้เวลาเดินทาง 5 นาที จากเดิม 10-15 นาที ทำให้ถนนพื้นราบก่อนถึงแยกถนนพระราม 9 ตัดเอกมัย รับและระบายรถไปอโศก-ดินแดงไม่ทัน มีท้ายแถวสะสมย้อนขึ้นมาบนทางด่วน ทางตำรวจ จราจรรับทราบปัญหาแล้วอยู่ระหว่างปรับจังหวะสัญญาณไฟให้สอดคล้องกับปริมาณรถ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :https://www.thairath.co.th/content/1360290

คาดว่าการจราจรในวันถัดไปจะดีขึ้น

ปันความรู้สู่โรงเรียนกับ รฟม.

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2561 โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ได้จัดกิจกรรม “ปันความรู้สู่โรงเรียน กับ รฟม.” กับโรงเรียนถนอมพิศวิทยา ซึ่งตั้งอยู่บริเวณซอยลาดพร้าว 62  โดยมีนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กว่า 200 คน ร่วมกิจกรรม และเล่นเกมส์ต่าง ๆ อย่างสนุกสนาน กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว – สำโรง

ผู้บริหาร PCYL แสดงความยินดีและมอบเงินบริจาค

คณะผู้บริหาร PCYL  โดย Mr. Cristian Schulz Project Manager และ คุณโสฬส เตมียบุตร ผู้จัดการโครงการ ร่วมแสดงความยินดีและมอบเงินบริจาคเพื่อร่วมสมทบทุนใน “ศิริราชมูลนิธิ”เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันก่อตั้ง รฟม. ครบรอบ 26 ปี เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2561

รฟม. แจ้งปิดเบี่ยงจราจรบนถนนลาดพร้าว ตั้งแต่เชิงสะพานข้ามคลองบางซื่อ ถึง เชิงสะพานข้ามคลองลาดพร้าว เพื่อดำเนินการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2561 เป็นต้นไป ตลอด 24 ชั่วโมง

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง มีความจำเป็นต้องปิดเบี่ยงจราจรบนถนนลาดพร้าว ตั้งแต่บริเวณเชิงสะพานข้ามคลองบางซื่อ (ลาดพร้าว ซอย 43) ถึง          เชิงสะพานข้ามคลองลาดพร้าว (ลาดพร้าว ซอย 45/1) เพื่อดำเนินการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค โดยจะปิดช่องจราจร 1 ช่องทางขวา (ชิดเกาะกลาง) ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก ระยะทางประมาณ 350 เมตร ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2561 เวลา 22.00 น. เป็นต้นไป

ทั้งนี้ การปิดเบี่ยงจราจรเพื่อดำเนินการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ อาจทำให้ผู้ใช้เส้นทางไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง และการดำเนินงานอาจมีเสียงดังรบกวน ดังนั้น หากไม่มีความจำเป็นโปรดหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว รฟม. ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ โดยผู้ใช้เส้นทางสามารถ              สอบถามรายละเอียดการเบี่ยงจราจร ได้ที่เบอร์โทร 0 2610 4915 และ 09 8257 5555

———————————————————————————-

 

กองสื่อสารองค์กร สำนักผู้ว่าการ

โทร 0 2716 4000 ต่อ 1720

โทรสาร 0 2716 4019

Email : pr@mrta.co.th

 

 

รฟม. แจ้งปดิเบยี่งจราจรบนถนนลาดพรา้ว ตั้งแต่เชิงสะพานขา้ม คลองบางซื่อ ถึง เชิงสะพานข้ามคลองลาดพรา้ว เพื่อรื้อย้าย สาธารณูปโภค โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ตั้งแต่วนัที่ 20 สิงหาคม 2561 เป็นต้นไป ตลอด 24 ชั่วโมง

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า บริษัท ซิ โน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จ ากัด (มหาชน) ผู้รับจ้างก่อสร้างงาน โยธา โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – ส าโรง มีความจ าเป็นต้อง ปิดเบี่ยงจราจรบนถนนลาดพร้าว ตั้งแต่บริเวณเชิงสะพานข้ามคลองบางซื่อ (ลาดพร้าว ซอย 43) ถึง เชิงสะพานข้ามคลองลาดพร้าว (ลาดพร้าว ซอย 45/1) เพื่อด าเนินการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค โดยจะปิดช่องจราจร 1 ช่องทางขวา (ชิดเกาะกลาง) ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก ระยะทางประมาณ 350 เมตร ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2561 เวลา 22.00 น. เป็นต้น ไป ทั้งนี้ การปิดเบี่ยงจราจรเพื่อด าเนินการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค โครงการ รถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ อาจท าให้ผู้ใช้เส้นทางไม่ได้รับความสะดวกในการ เดินทาง และการด าเนินงานอาจมีเสียงดังรบกวน ดังนั้น หากไม่มีความจ าเป็น โปรดหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว รฟม. ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ โดยผู้ใช้ เส้นทางสามารถ สอบถามรายละเอียดการเบี่ยงจราจร ได้ที่เบอร์โทร 0 2610 4915 และ 09 8257 5555

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ :  https://www.dailynews.co.th/economic/660430

กทม.จับมือตำรวจแก้รถติดลาดพร้าว ตามคำสั่ง “ประวิตร”-ทุบเกาะรัชดา 32 ขยายทางลัดขยับ 21 ป้ายรถเมล์

ที่ศาลาว่าการ กทม. เมื่อวันที่ 9 ส.ค. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ได้เชิญผู้แทนหน่วยงาน อาทิ กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) สำนักการโยธา (สนย.) สำนักเทศกิจ (สทก.) ร่วมประชุม เพื่อวางแนวทางแก้ไขปัญหาการจราจรในพื้นที่กรุงเทพฯ ในระหว่างการก่อสร้างรถไฟฟ้า  พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ ผบก.จร. เปิดเผยว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขอให้ บก.จร.สำรวจพื้นที่ถนนทั่วกรุงเทพฯ พื้นที่ทางเลี่ยง ทางหลัก และเส้นทางที่จำเป็นต้องปรับปรุงกายภาพ เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯ โดยให้รายงานกลับมายัง กทม.ภายใน
7 วัน เพื่อพิจารณาผลสำรวจและวางแผนแก้ไขปัญหาร่วมกัน ทั้งนี้ กทม.จะเป็นหน่วยงานหลักในการสนับสนุนการปรับปรุงกายภาพถนน และการจัดทำป้ายบอกเส้นทางลัด เส้นทางเลี่ยง เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการเดินทาง

สำหรับการแก้ไขปัญหาการจราจรบริเวณโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าที่ถนนลาดพร้าว ซึ่ง บก.จร.เสนอให้ปาดเกาะกลางถนนบริเวณหน้าห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว และหน้าซอย รัชดาฯ 32 ซึ่งผู้ว่าฯ กทม.เห็นด้วย และพร้อมสนับสนุนการดำเนินงาน คาดว่าจะสามารถเริ่มทุบเกาะกลางถนนหน้าซอยรัชดาฯ 32 ได้ในวันที่ 11 ส.ค.นี้ เน้นการทำงานช่วงกลางคืนจะแล้วเสร็จประมาณวันที่ 14 ส.ค. นอกจากนี้ บก.จร.ขอให้ปรับจุดจอดรถประจำทางในถนนลาดพร้าวจำนวน 21 จุด ที่ส่งผลให้การจราจรในพื้นที่ชะลอตัว โดยจุดที่ปรับนั้นจะทำเป็นที่พักรอรถประจำทางชั่วคราวและจะปรับห่างจากจุดเดิมไม่มากนัก เพื่อไม่ให้กระทบต่อการเดินทางประชาชน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการแก้ไขในเบื้องต้นนี้ จะช่วยบรรเทาการจราจรได้ดีขึ้น
พ.ต.อ.ธวัช วงศ์สง่า รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 (รอง ผบก.น.4) เปิดเผยว่า การแก้ปัญหาการจราจรบริเวณถนนลาดพร้าว เบื้องต้นจะแก้ไขกายภายถนน คือทุบเกาะกลางถนนหน้าซอยรัชดาภิเษก 32 เขตจตุจักร เพื่อแบ่งเบารถมาจากถนนรัชดาภิเษก, พระราม 9 ที่จะเข้าถนนลาดพร้าว โดยรถสามารถวิ่งตรงข้ามแยกรัชดา-ลาดพร้าว แล้วมาเลี้ยวบริเวณที่ทุบเกาะกลางออก เพื่อเข้าซอยรัชดาฯ 32 เป็นเพิ่มทางเลือก ซึ่งซอยรัชดาฯ 32 หรือซอยภาวนา  สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนสายอื่นๆ ได้หลายเส้นทาง เช่น ถ.ลาดพร้าววังหิน, ประดิษฐ์– มนูธรรม, ลาดพร้าว 71, ซอยภาวนา, โชคชัย 4, เกษตรนวมินทร์ เป็นต้น
รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรในพื้นที่กรุงเทพฯ บริเวณที่มีการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าครั้งนี้ สืบเนื่องจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้ กทม.ตั้งคณะกรรมการแก้ปัญหาจราจร ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อบรรเทาปัญหาจากก่อสร้างโครงการต่างๆในพื้นที่กรุงเทพฯที่ส่งผลกระทบต่อการจราจร โดย กทม.จะหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหา เช่น การทำจุดกลับรถ ทำป้ายจราจรแนะนำเส้นทางเลี่ยง เส้นทางลัด เพื่อเชื่อมไปยังถนนอื่น ๆ เป็นต้น.
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.thairath.co.th/content/1351850

การตรวจสอบความปลอดภัยในบริเวณเขตก่อสร้าง ครั้งที่ 1

      นายณัฐชัย ชาญก้องสกุล หัวหน้าฝ่ายอาชีวอนามัยและความปลอดภัย รฟม. พร้อมด้วยที่ปรึกษาPCYL ด้านความปลอดภัย ผู้จัดการฝ่ายความปลอดภัยEBM  และผู้จัดการฝ่ายความปลอดภัย STECON  พร้อมทีมงาน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความปลอดภัยในบริเวณเขตก่อสร้าง ครั้งที่ 1 โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง โดยเริ่มจากสถานีกลันตัน(YL12) บริเวณหน้าธัญญะช้อปปิ้ง พาร์ค สถานีศรีนุช (YL13)  ด้านทิศใต้ของแยกศรีนุช และ สถานีศรีนครินทร์ 38 (YL14)  บริเวณปากซอยศรีนครินทร์ 38

การดำเนินงานครั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามแผนความปลอดภัย ที่จะช่วยให้งานบริหารจัดการควบคุมงานสอดคล้องกับปฏิญญาว่าด้วยความปลอดภัยในการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนของ รฟม.

รฟม. แจ้งปิดเบี่ยงช่องจราจรบนถนนศรีนครินทร์ บริเวณแยกลำสาลี 3 จุด เพื่อดำเนินการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง ตั้งแต่วันที่ 10 – 30 สิงหาคม 2561 เวลา 22.00 น. เป็นต้นไป ตลอด 24 ชั่วโมง

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์  คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง มีความจำเป็นต้องปิดเบี่ยงช่องจราจรบนถนนศรีนครินทร์ บริเวณแยกลำสาลี 3 จุด เพื่อดำเนินการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค ตั้งแต่วันที่ 10 – 30 สิงหาคม 2561 เวลา 22.00 น. เป็นต้นไป ตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีรายละเอียดดังนี้

จุดที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 10 – 16 สิงหาคม 2561 (7 วัน) ปิดช่องจราจรบนถนนศรีนครินทร์ ฝั่งขาออก           มุ่งหน้าแยกพัฒนาการ 1 ช่องทางขวา (ชิดเกาะกลาง) ระยะทางประมาณ 40 เมตร ตลอด 24 ชั่วโมง

จุดที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 17 – 23 สิงหาคม 2561 (7 วัน) ปิดช่องจราจรบนถนนศรีนครินทร์ ฝั่งขาเข้า           มุ่งหน้าแยกบางกะปิ 1 ช่องทางขวา (ชิดเกาะกลาง) ระยะทางประมาณ 40 เมตร ตลอด 24 ชั่วโมง

จุดที่ 3   ตั้งแต่วันที่ 24 – 30 สิงหาคม 2561 (7 วัน) ปิดช่องจราจรบนถนนศรีนครินทร์ ฝั่งขาออก มุ่งหน้าแยกพัฒนาการ ช่องทางที่ 2 (นับจากเกาะกลาง) ระยะทางประมาณ 40 เมตร ตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ การปิดช่องจราจรเพื่อดำเนินการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค อาจทำให้ผู้ใช้เส้นทางไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง และการดำเนินงานอาจมีเสียงดังรบกวน ดังนั้น หากไม่มีความจำเป็นโปรดหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว รฟม. ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ โดยผู้ใช้เส้นทางสามารถสอบถามรายละเอียดการเบี่ยงจราจร ได้ที่เบอร์โทร 0 2610 4915 และ 09 8257 5555

———————————————————————————-

กองสื่อสารองค์กร สำนักผู้ว่าการ

โทร 0 2716 4000 ต่อ 1720

โทรสาร 0 2716 4019

Email : pr@mrta.co.th

Sois named for Yellow Line detours

Transport: Three sois on Ratchadaphisek Road will be used as detours for motorists to avoid Lat Phrao Road, which is clogged with traffic because of construction work. The decision on the detours was reached at a Police Strategy Office (PSO) meeting yesterday to deal with the traffic problem on and around Lat Phrao Road where construction of the Yellow Line train project is under way. PSO deputy commissioner, Pol Maj Gen Jirapat Phumijit, said Ratchadaphisek sois 30, 32 and 36 will be the detours to bypass traffic from Ratchadaphisek Road to the Chokechai 4, Wang Hin, Pasert Manukij, Pradit Manutham and Lat Plakao areas without going through Lat Phrao.
The detours will be in effect during morning and evening rush hours when a parking ban will be placed in the three sois. Traffic islands on Ratchadaphisek Road  will be cut in places to allow vehicles to make U-turns and enter the sois.

read more  :  https://www.bangkokpost.com

เตรียมเจาะเกาะกลางถนน หน้าศาลอาญาเพิ่มจุดกลับรถ แก้ปัญหารถติดลาดพร้าว

ตำรวจนครบาลแก้ปัญหาจราจรถนนลาดพร้าว เนื่องจาก ผลกระทบจากการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง ที่จะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี

เบื้องต้นจะมีการตัดเกาะกลางถนน เส้นรัชดาภิเษก ด้านหน้าศาลอาญารัชดา เพื่อใช้เป็นจุดกลับรถ รองรับรถที่เข้าใช้เส้นทางลัดซอยรัชดา 30, 32 และ 36 ออกไปทางโชคชัย 4 ถนนลาดพร้าว-วังหิน ถนนประเสริฐมนูกิจ ถนนประดิษฐมนูธรรม และลาดปลาเค้า

 

โดยจะห้ามจอดรถในซอยลัดดังกล่าวในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าเย็น หากฝ่าฝืนจะถูกยกรถทันที รวมทั้ง ขยับย้ายป้ายรถประจำทาง 21 จุด ตลอดเส้นทางถนนลาดพร้าวขาออก ให้เหลื่อมกับแนวแบริเออร์ก่อสร้างรถไฟฟ้า เพื่อไม่ให้กระทบช่องจราจร และขอใช้ลานบริเวณหน้าบิ๊กซีลาดพร้าวในการจอดรถประจำทางรับส่งประชาชน

ส่วนการย้ายระบบสาธารณูปโภค อาทิ เสาไฟฟ้า สายสัญญาณโทรศัพท์ จะให้ดำเนินการเพื่อไม่ให้กระทบการจราจร นอกจากนี้ จะมีปรับเปลี่ยนเป็นแท่งแบริเออร์ปูนเป็นพลาสติกในบางจุด เพื่อสามารถปรับพื้นที่แนวก่อสร้างรถไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://morning-news.bectero.com/social-crime/08-Aug-2018/127665