4 ก.ค. เบี่ยงจราจรถนนศรีนครินทร์ใต้ทางพิเศษศรีรัช-แยกศรีกรีฑา

รฟม. แจ้งปิดเบี่ยงจราจรถนนศรีนครินทร์ บริเวณใต้ทางพิเศษศรีรัช-แยกศรีกรีฑา ตั้งแต่ 4 ก.ค.61 เป็นต้นไป ตลอด 24 ชม. เตรียมรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง มีความจำเป็นต้องปิดเบี่ยงจราจรบนถนนศรีนครินทร์ บริเวณใต้ทางพิเศษศรีรัช ถึง แยกศรีกรีฑา ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม 2561 เป็นต้นไป โดยการปิดเบี่ยงจะทยอยปิดเป็นระยะๆ เพื่อเตรียมงานรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค
ระยะแรกจะปิดเบี่ยงจราจร 1 ช่องทางขวา (ชิดเกาะกลาง) ฝั่งขาเข้าและขาออก บริเวณใต้ทางพิเศษศรีรัช ถึง บริเวณศูนย์ซ่อมบำรุงรถยนต์ PIT & GO ระยะทาง 200 เมตร และจะทยอยปิดเบี่ยงจราจรอย่างต่อเนื่อง ช่วงละ 200 เมตร จนสิ้นสุดบริเวณแยกศรีกรีฑา

ทั้งนี้ การเบี่ยงจราจรเพื่อการเตรียมงานรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค อาจทำให้ผู้ใช้เส้นทางไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง และการดำเนินงานอาจมีเสียงดังรบกวน ดังนั้น หากไม่มีความจำเป็น โปรดหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว รฟม. ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ โดยผู้ใช้เส้นทางสามารถ สอบถามรายละเอียดการเบี่ยงจราจร ได้ที่เบอร์โทร 0 2610 4915 และ 09 8257 5555

อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/economic/652111

สะดุด! รถไฟฟ้าสายสีส้ม-รถไฟทางคู่เฟส 2 ติดล็อกกม.ใหม่วินัยการคลัง

แผนลงทุนเมกะโปรเจ็กต์คมนาคม ติดหล่ม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ หวั่นเพิ่มหนี้สาธารณะ เป็นภาระงบประมาณ บอร์ด รฟม.สั่งศึกษาการเงินสายสีส้ม-สีม่วงใต้เพิ่ม รถไฟทางคู่ เฟส 2 ติดล็อกยกแผง 9 เส้นทาง ส่อหลุดโค้งประมูลไม่ทันสิ้นปีนี้

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ที่มีผลบังคับใช้เมื่อ 19 เม.ย. 2561 อาจส่งผลกระทบต่อการขออนุมัติลงทุนโครงการต่าง ๆ ของกระทรวงคมนาคม เนื่องจากแต่ละโครงการต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังเพิ่มอีกขั้นตอนหนึ่ง ซึ่งมีหลักเกณฑ์หลายอย่างต้องพิจารณาประกอบ อย่างไรก็ตาม จะเร่งรัดให้เร็วที่สุด คาดว่ากระบวนการพิจารณาจะช้าจากเดิม 2-3 เดือน

กระทบเมกะโปรเจ็กต์คมนาคม 

โครงการที่ต้องเข้ากระบวนการนี้ ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนใหม่ที่ยังไม่ผ่านอนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่วนที่ได้รับอนุมัติก่อน พ.ร.บ.ฉบับนี้บังคับใช้ ไม่จำเป็นต้องนำกลับมาพิจารณาใหม่

โครงการที่ต้องนำกลับไปให้คณะกรรมการตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินคลังฯพิจารณา อันดับแรกคือ รถไฟทางคู่ เฟส 2 จำนวน 9 เส้นทาง เงินลงทุน 427,012 ล้านบาท ที่ต้องเร่งดำเนินการให้ได้ในปีนี้ โดยเส้นทางเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323.10 กม. เงินลงทุน 76,978 ล้านบาท ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการชุดนี้แล้ว รอเสนอ ครม.อนุมัติ

นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การขออนุมัติทุกโครงการต้องทำตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ ซึ่งสำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลัง จะมีแบบฟอร์มให้แต่ละหน่วยงานกรอกเพิ่ม เช่น ความคุ้มค่าด้านการเงิน เพื่อนำไปวิเคราะห์ตรวจสอบเรื่องผูกพันงบประมาณของรัฐบาล จากเดิมสภาพัฒน์พิจารณาแล้วเสนอ ครม.อนุมัติได้เลย แต่ต่อไปต้องส่งข้อมูลเพิ่มให้คณะกรรมการพิจารณา

บอร์ด รฟม.ตีกลับสายสีส้ม 

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. เมื่อ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา ให้ รฟม.นำรูปแบบการร่วมลงทุน PPP โครงการก่อสร้างช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ และการเดินรถสายสีส้มจากมีนบุรี-ศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ รวม 34.6 กม.ไปจัดทำรายละเอียดเพิ่มเกี่ยวกับความเป็นไปได้ทางการเงินให้ครบทุกมิติ เช่น อัตราดอกเบี้ย ปริมาณผู้โดยสาร ความคุ้มค่าของโครงการ ให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ ที่จะกำหนดกรอบเพดานหนี้สาธารณะ และกรอบการใช้เงินงบประมาณ ซึ่งจะเร่งดำเนินการและเสนอบอร์ดพิจารณาในการประชุมครั้งหน้าเดือน ก.ค.นี้

สำหรับสายสีส้ม ใช้เงินลงทุน 120,000 ล้านบาทเป็นค่าก่อสร้าง 90,000 ล้านบาท ค่าเดินรถ 30,000 ล้านบาท ใช้รูปแบบการลงทุน PPP net cost เวลา 30 ปี โดยรัฐเวนคืนที่ดิน ส่วนเอกชนลงทุนทั้งก่อสร้างและระบบเดินรถ โดยรัฐสนับสนุนเงินลงทุนไม่เกินเพดานค่างานโยธา 10 ปี เหมือนสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ซึ่งบอร์ดมองว่า แม้จะให้เอกชนลงทุน PPP ทั้งโครงการ แต่มีเงื่อนไขรัฐต้องสนับสนุนเงินลงทุนไม่เกินเพดานค่างานโยธา และต้องจัดสรรประมาณผูกพันระยะยาว จะสร้างภาระให้รัฐบาล

“การที่ รฟม.เสนอแบบ single one single package คือ ให้งานก่อสร้างและเดินรถไปพร้อม ๆ กัน เพื่อให้เปิดบริการได้ตามแผน เดิมเริ่มงานก่อสร้างแล้วถึงจะเปิดประมูลเดินรถ หากมีปัญหาจะเปิดใล่าช้า เหมือนสายสีแดง”

หวั่นกระทบเปิดหวูดปี”66

นายภคพงศ์กล่าวว่า คาดว่างานเดินรถของสายที่ยังไม่ได้รับอนุมัติ จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเปิดบริการสายสีส้มปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง คืบหน้า 9.98% ตามแผนจะเปิดปี 2566 เนื่องจากปกติงานระบบจะใช้เวลา 36 เดือนในการผลิต ติดตั้งและทดสอบระบบ หากหาเอกชนดำเนินการได้ในปี 2562-2563 ถือว่ายังอยู่ในแผนงาน ตั้งเป้าไตรมาส 4 จะประกาศทีโออาร์ความคืบหน้ารถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) 23.6 กม. เงินลงทุน 1.01 แสนล้านบาท อยู่ระหว่างจัดหาแหล่งเงินลงทุนเพิ่ม แบ่งเป็นเงินทุนที่กระทรวงการคลังจะจัดหาเงินทุนให้ 90% อีกส่วนจากธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) 10% รูปแบบการลงทุนจะเปิดให้เอกชนร่วมทุน PPP เหมือนสายสีส้ม ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษารูปแบบ PPP ที่เหมาะสมระหว่าง PPP net cost และ PPP gross cost รวมถึงทำตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯใหม่ด้วย

งานทางหลวงติดหล่มถ้วนหน้า 

ขณะที่นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า กรมได้รับผลกระทบจาก พ.ร.บ.ดังกล่าวเช่นกัน ทั้งโครงการมูลค่า 1,000 ล้านบาท ที่จะขอจัดสรรงบประมาณประจำปี ในปี 2562 ไม่ต่ำกว่า 20-30 โครงการ จะเริ่มเปิดประมูลเดือน ส.ค.นี้ ให้ทันเบิกจ่ายงบประมาณเดือน ต.ค. อาจล่าช้าออกไปอีกรวมถึงโครงการขนาดใหญ่ มอเตอร์เวย์สายใหม่ เช่น นครปฐม-ชะอำ 119 กม. เงินลงทุน 80,600 ล้านบาท เป็นค่าก่อสร้าง 62,600 ล้านบาท ค่าเวนคืน 18,000 ล้านบาท จะให้เอกชนร่วมลงทุน PPP net cost รัฐเวนคืน และให้เอกชนก่อสร้างงานโยธา ติดตั้งงานระบบ และรับสัมปทานบริหารโครงการ 30 ปี

นอกจากนี้ มีมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-วังมะนาว จะสร้างเฟสแรก ช่วงต่างระดับบางขุนเทียน-มหาชัย 11.5 กม. เงินลงทุน 15,000 ล้านบาท ส่วนต่อขยายโทลล์เวย์ช่วงรังสิต-บางปะอิน 18 กม. เงินลงทุน 30,538 ล้านบาท ส่วนต่อขยายถนนบรมราชชนนี-ถนนพุทธมณฑลสาย 4 วงเงิน 6,000-7,000 ล้านบาท รวมถึงโครงการ PPP ให้เอกชนร่วมลงทุนระบบเก็บค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์ บางปะอิน-โคราช และบางใหญ่-กาญจนบุรี 6 หมื่นล้านบาท และค่าเวนคืนสายบางใหญ่-กาญจนบุรี ที่จะขอเพิ่มเติม 14,217 ล้านบาทด้วย

ห้ามสร้างภาระเกิน 30% 

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลกล่าวว่า เนื่องจาก พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ บังคับใช้ตั้งแต่ 20 เม.ย. 2561 ดังนั้น ทุกหน่วยงานต้องปฏิบัติตาม ทั้งนี้ วันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ได้เป็นประธานประชุมคณะกรรมการชุดนี้ครั้งแรก และมีมติกำหนดกรอบวินัยการเงินการคลังบางส่วนออกมาแล้ว

สาระสำคัญของกฎหมายมีเรื่องชดเชยค่าใช้จ่ายหรือการสูญเสียรายได้ของรัฐไว้ โดยกำหนดอัตราชดเชยค่าใช้จ่ายหรือการสูญเสียรายได้ของหน่วยงานรัฐตามที่ได้รับมอบหมาย ต้องมียอดคงค้างรวมกันไม่เกินอัตรา 30% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) จึงให้โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ที่เตรียมเสนอ ครม. จัดทำรายงานเพิ่มเรื่องการสูญเสียรายได้รัฐมาด้วย

ชี้ไม่ต้องกลับไปนับหนึ่งใหม่

“โครงการที่เข้าเงื่อนไขนี้ ส่วนใหญ่เป็นรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ รถไฟทางคู่ เป็นต้น แม้เป็นโครงการที่เอกชนลงทุน แต่มีเงื่อนไขว่า หากรัฐต้องรับภาระก็จะรับได้ไม่เกินในส่วนที่เป็นการลงทุนตัวโครงสร้างพื้นฐาน ไม่เกี่ยวการเดินรถ”

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ จะต้องจัดทำแนวปฏิบัติที่ชัดเจน จะได้ไม่เกิดปัญหาการตีความภายหลัง

ด้านนายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ชี้แจงว่า การปฏิบัติตามกฎหมายฉบับนี้ไม่ถึงขนาดต้องกลับไปเริ่มนับ 1 ใหม่ และเชื่อว่าจะไม่ส่งผลทำให้การประมูลโครงการต่าง ๆ ล่าช้า ส่วนจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับหน่วยงานเจ้าของโครงการมากกว่า สำหรับรถไฟฟ้าสายสีส้มต้องดูรายละเอียดว่ามีข้อติดขัดอย่างไร หากมีปัญหาก็จะจัดการในภาพรวมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำ

อ่านต่อได้ที่ : https://www.matichonweekly.com/hot-news/article_112510

สีเหลืองมาแล้ว แนะเลี่ยงแยกลำสาลี เริ่มปิดศรีนครินทร์ขุดสาธารณูปโภค

พ.ต.อ.ธวัช วงศ์สง่า รอง ผบก.น.4 กล่าวว่า ขณะนี้ผู้รับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง ได้ปิดการจราจรถนนศรีนครินทร์ ฝั่งขาออก มุ่งหน้าพัฒนาการ บริเวณแยกลำสาลี จำนวน 1 ช่องทางชิดเกาะกลาง และวันที่ 27 มิ.ย. จะเริ่มปิดฝั่งขาเข้า มุ่งหน้าแยกบางกะปิ จำนวน 1 ช่องทางชิดเกาะกลาง

อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1318712

เริ่มนับสัญญาก่อสร้างสายสีชมพู-เหลือง 29 มิ.ย.61

รายงานข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่ง มวลชน แห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า หลังจาก รฟม. ได้ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือร่วมกับกรมทางหลวง (ทล.) ขอใช้พื้นที่ก่อสร้างโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง และสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ที่อยู่ในเขตทางกรมทางหลวง เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา ล่าสุด รฟม. เสนอที่ประชุมบอร์ดเห็นชอบหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน (Notice to Proceed : NTP) ให้กับกลุ่มกิจการร่วมค้า BSR ประกอบด้วย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เริ่มนับสัญญาโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และสายสีชมพู อย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย.2561 เป็นต้นไป รวมระยะเวลา 3 ปี 3 เดือน

อ่านต่อได้ที่ : https://www.thairath.co.th/content/1317731

รฟม.แจ้งปิดเบี่ยงจราจรบนถนนศรีนครินทร์ 3 จุด ตั้งแต่ 27 มิ.ย.เป็นต้นไป

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์  คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง        มีความจำเป็นต้องปิดเบี่ยงจราจรบนถนนศรีนครินทร์ 3 จุด บริเวณแยกศรีกรีฑา และบริเวณแยกพัฒนาการ ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน 2561 เป็นต้นไป เพื่อเตรียมงานรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค

จุดที่ 1 บริเวณแยกศรีกรีฑาบนถนนศรีนครินทร์ ช่วงระหว่างธนาคารไทยพาณิชย์และปั๊มน้ำมัน ปตท. ระยะทาง 150 เมตร จะปิดเบี่ยงจราจรช่องทางขวา (ชิดเกาะกลาง) ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออกอย่างละ 1 ช่องทาง ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน 2561 เป็นต้นไป ตลอด 24 ชั่วโมง และจะปิดการจราจรช่องที่ 2 ฝั่งขาออก เพิ่มอีก 1 ช่องทาง ในเวลา 22.00 – 04.00 น. เพื่อขนย้ายเครื่องจักรหนักเข้าพื้นที่ดำเนินงาน

จุดที่ 2 ตั้งแต่บริเวณซอยศรีนครินทร์ 17 ถึง บริเวณแยกพัฒนาการ ระยะทาง 300 เมตร จะปิดช่องจราจรทางขวา (ชิดเกาะกลาง) 1 ช่องทาง ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2561 เป็นต้นไป ตลอด 24 ชั่วโมง

จุดที่ 3 ตั้งแต่บริเวณแยกพัฒนาการ  ถึง บริเวณคลองหัวหมาก ระยะทาง 200 เมตร จะปิดช่องจราจรทางซ้าย (ชิดทางเท้า) 1 ช่องทาง  ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดำเนินงานขยายผิวช่องจราจร

ทั้งนี้ การเบี่ยงจราจรเพื่อการเตรียมงานรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค อาจทำให้ผู้ใช้เส้นทางไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง และการดำเนินงานอาจมีเสียงดังรบกวน ดังนั้น หากไม่มีความจำเป็นโปรดหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว รฟม. ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ โดยผู้ใช้เส้นทางสามารถ  สอบถามรายละเอียดการเบี่ยงจราจร ได้ที่เบอร์โทร 0 2610 4915 และ 09 8257 5555

อ่านต่อได้ที่ : https://www.matichon.co.th/economy/news_1014850

ปชส. โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง เบี่ยงจราจร ถ.ศรีนรินทร์ ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. 2561 ถึง วันที่ 6 ก.ค. 2561 ตลอด 24 ชั่วโมง

ปชส. โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง เบี่ยงจราจร ถ.ศรีนรินทร์ ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. 2561 ถึง วันที่ 6 ก.ค. 2561 ตลอด 24 ชั่วโมง
จุดที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 23 – 25 มิถุนายน 2561 (3 วัน) ตลอด 24 ชั่วโมง ปิดช่องจราจรช่องทางที่ 1 (ชิดเกาะกลาง) ฝั่งขาออก มุ่งหน้าพัฒนาการ ระยะทางประมาณ 40 เมตร
จุดที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 26 – 29 มิถุนายน 2561 (4 วัน) ตลอด 24 ชั่วโมง ปิดช่องจราจรช่องทางที่ 1 (ชิดเกาะกลาง) ฝั่งขาเข้า มุ่งหน้าบางกะปิ ระยะทางประมาณ 40 เมตร
จุดที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน ถึงวันที่ 2 กรกฎาคม 2561 (3 วัน) ตลอด 24 ชั่วโมง ปิดช่องจราจรช่องทางที่ 1 (ชิดเกาะกลาง) ฝั่งขาออก มุ่งหน้าพัฒนาการ ระยะทางประมาณ 40 เมตร
จุดที่ 4 ตั้งแต่วันที่ 3 – 6 กรกฎาคม 2561 (4 วัน) ตลอด 24 ชั่วโมง ปิดช่องจราจรช่องทางที่ 2 ฝั่งขาออก มุ่งหน้าพัฒนาการ ระยะทางประมาณ 40 เมตร เพื่อเตรียมงานรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค
อ่านต่อได้ที่ : http://www.fm91bkk.com/

คึกคักแจก “บัตรแมงมุม” ใช้งานจริง 2 สาย

ประชาชนจำนวนมากต่อคิวรอรับบัตรแมงมุม ของ รฟม.เพื่อนำใช้ในระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้าสายสีม่วง และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เริ่มใช้งานจริงวันแรก ส่วนการแจกบัตรประชาชนทั่วไป วันนี้-29 มิ.ย.นี้ทุกสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางซื่อ-เตาปูน รวม16,000 ใบต่อวัน

วันนี้(23 มิ.ย.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 06.00 น.ประชาชนทยอยเดินทางมารับแจกบัตรแมงมุม รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ซึ่งเป็นวันที่ 2 ที่แจกบัตรให้ประชาชนทั่วไป และเป็นวันแรกที่จะเปิดใช้บัตรแมงมุมกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางซื่อ-เตาปูน และรถไฟฟ้าใต้ดิน

โดยบรรยากาศที่สถานีเตาปูน มีผู้โดยสารมารับบัตรแมงมุมเป็นจำนวนมาก ซึ่งการต่อคิวเพื่อรอรับบัตรค่อนข้างช้า แต่หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ปรับวิธีการ โดยเพิ่มโต๊ะกรอกเอกสาร และจัดโต๊ะสำหรับการรับบัตรอย่างเดียว แต่หากต้องการเติมเงินบัตรแมงมุมครั้งแรกในบัตร จะต้องเติมที่ตู้ออกบัตรโดยสารเท่านั้น

โดยขั้นตอนการรับระหว่างวันที่ 23-29 มิ.ย.นี้ จำกัดเฉพาะบุคคลทั่วไป โดยรับบัตรได้ที่สถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางซื่อ-เตาปูน ทั้ง 16 สถานีเฉลี่ยสถานีละ 1,000 ใบต่อสถานี รวม 16,000 ใบต่อวันและวันที่ 2 -5 ก.ค.นี้ แจกวันละ 1,000 ใบต่อสถานี ส่วนบัตรผู้สูงอายุ (สีทอง) และบัตรนักเรียนนักศึกษา (สีเทา) รับได้ในวันที่ 30 มิ.ย.-1 ก.ค.นี้

โดยแสดงบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อขอรับบัตรแมงมุมได้ที่ห้องออกบัตรโดยสาร หลังจากนั้นกรอกเอกสารเพื่อขอรับบัตร และเมื่อนำไปใช้จะต้องเติมเงินขั้นต่ำ 150 บาท โดยแบ่งเป็นค่ามัดจำบัตร 50 บาท และมูลค่าเงินสำหรับโดยสารรถไฟฟ้า 100 บาท ทั้งนี้ บัตรมีจำนวนจำกัด และจำกัดสิทธิ์ 1 คนต่อ 1 ใบ เท่านั้น

ขณะที่ช่วงเช้า มีผู้สูงอายุเดินทางมารับบัตรแมงมุมตั้งแต่เวลาหกนาฬิกา แต่ไม่สามารถรับบัตรแมงมุมได้ เนื่องจากวันนี้เปิดให้เฉพาะบุคคลทั่วไปรับบัตรก่อน

อ่านต่อได้ที่ : https://news.thaipbs.or.th/content/272930

ตั๋วร่วมลดราคาทันที14-16บาทหลังการเชื่อมต่อสายสีม่วงกับสีน้ำเงิน

รมว.คมนาคมเผยลดค่ารถไฟฟ้าทันที 14-16 บาท หลังเชื่อมต่อตั๋วร่วมสายสีม่วง-สีน้ำเงิน -รฟม.กลับลำเปิดประมูล Interbid รับต่างชาติชิงเค้กสายสีม่วง นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า การใช้ตั๋วร่วมหรือบัตรแมงมุมเชื่อมต่อการเดินทางรถไฟฟ้าสองสายได้แก่สายสีม่วงและสายสีน้ำเงินจะส่งผลให้ลดค่าโดยสารได้ราว14-16 บาท จากการยกเว้นค่าแรกเข้าเมื่อเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสองสาย ปัจจุบันค่ารถไฟฟ้าสายสีม่วง 14-42 บาท และสายสีน้ำเงิน 16-42 บาท เช่น หากผู้โดยสารเดินทางเต็มสายทั้งสองเส้นทางเริ่มจากสายสีม่วงไปต่อสายสีน้ำเงินจะเสียค่าโดยสาร 84 บาท หากใช้ตั๋วร่วมจะลดค่าโดยสารเหลือ 68 บาทเพราะลดค่าแรกเข้าของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินลง 16 บาท ทั้งนี้หากใช้บริการแค่รถไฟฟ้าเส้นทางเดียวจะไม่ลดค่าแรกเข้า

อย่างไรก็ตาม บัตรดังกล่าวจะสามารถใช้ได้กับรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างทั้งโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ,สายสีเหลือง ,สายสีส้ม และสายสีแดง โดยจะมีการขยายการใช้บริการไปยังเรือโดยสาร และทางด่วน Easy Pass M Pass รวมถึงร้านค้าต่างๆได้ โดยจะพยายามให้เรือด่วนดำเนินการให้เสร็จภายในปีนี้ ซึ่งในอนาคตค่าโดยสารอาจจะถูกลงเพราะจะมีระบบจัดเก็บค่าโดยสารเดียว (Common Fare) โดยขณะนี้รอการจัดตั้งกรมการขนส่งทางรางที่จะเข้ามาเป็นผู้กำกับดูแล และพิจารณาอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสมแต่หากจะให้มีอัตราค่าโดยสารที่ถูกลงต้องรอการพิจารณาร่างกฎหมายขณะนี้อยู่ในชั้นกฤษฎีกา

ด้านนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม กล่าวว่าทางรฟม.เตรียมออกบัตรแมงมุมเวอร์ชั่น 2 ด้วยเทคโนโลยี EMV Contactless Smart Card ที่ในบัตรเครดิต ซึ่งในกลุ่มประเทศยุโรปกำลังพัฒนามาใช้เทคโนโลยีดังกล่าวในอนาคตก็จะสามารถนำบัตรแมงมุมไปใช้เดินทางระบบขนส่งสาธารณะในต่างประเทศและปัจจุบันที่ลอนดอน สิงคโปร์ ได้มีการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวทำให้นำบัตรแมงมุมใช้กับประเทศอื่นที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกันได้ ทั้งนี้ความคืบหน้าของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้นทางขณะนี้ทางกรุงเทพมหานครอยู่ระหว่างการเสนอเรื่องเข้าสภากรุงเทพมหานครพิจารณาก่อนแต่ยืนดีรับโอนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวและยังคงกรอบระยะเวลาเดิมในการเปิดให้บริการส่วนต่อขยายช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการช่วงปลายปีนี้ ซึ่งขณะนี้ก็ได้มีการสั่งซื้อขบวนรถเข้ามาแล้วคาดว่าจะทำให้ปัญญาการคับคั่งของการใช้บริการรถไฟฟ้าBTS ลดลง ในส่วนของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิ้งก์ โดยหากทำการปรับปรุงแล้วเสร็จวิ่งให้บริการได้ครบ 9 ขบวน จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มมากขึ้นแม้ว่าจะมีการเชื่อมต่อการเดินทางด้วยบัตรแมงมุม และมองว่าหากในอนาคตเมื่อโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง ก่อสร้างแล้วเสร็จ ในช่วงพัฒนาการที่เป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางจะต้องมีการซื้อขบวนรถเผื่อเนื่องจากจะต้องมีการรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในปี 2564

ส่วนนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) กล่าวว่า ความเบื้องต้นจะแจกบัตรแมงมุมจำนวน 200,000 ใบก่อน โดยเติมเงินได้สูงสุด 2,000 บาท ต่ำสุด 150 บาท และสามารถเริ่มใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.นี้ เป็นต้นไป โดยติดต่อขอรับบัตรได้ที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินทุกสถานี ส่วนการเข้าร่วมบัตรแมงมุมของรถเมล์ รฟม.ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยทางเทคนิค ขสมก.อยู่ระหว่างพิจารณาออกแบบ คาดว่าอาจใช้วิธีเก็บค่าโดยสารใน 2 รูปแบบ แบบแรกคือ ให้กระเป๋ารถเมล์มีเครื่องสแกนเก็บค่าโดยสาร หรือแบบที่ 2 คือ การติดตั้งเครื่องอ่านบัตร ไว้บนรถเมล์ ซึ่งจะใช้เวลาอ่านไม่เกินครึ่งวินาทีต่อ 1 ใบ เชื่อมั่นว่าจะไม่เกิดปัญหาเหมือนเครื่องอ่านบัตรที่ต้องโละทิ้งอย่างที่ผ่านมาโดยในส่วนของรถเมล์เอกชนก็สามารถเข้าร่วมได้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการประสานมาแต่ยืนยันว่าจะได้ความชัดเจนในเดือน ต.ค.นี้

อ่านต่อได้ที่ : https://www.posttoday.com/economy/555343

“บัตรแมงมุม” ของคนเมืองกรุงพกใบเดียวไปได้ทุกที !!!

เดินหน้าแจกบัตรแมงมุม 200,00 ใบฟรี ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.2561 ตั๋วร่วมที่คนไทยได้ใช้สักที! หลังรอมานาน 10 ปี เบื้องต้นใช้เป็นตั๋วโดยสารได้เฉพาะรถไฟฟ้าสายใต้ดินสายสีน้ำเงินกับสายสีม่วงก่อน จากนั้น เดือน ต.ค. 2561 จะขยายไปใช้ได้กับแอร์พอร์ตเรลลิงค์ และรถเมล์ ขสมก. 2,600 คัน และในอนาคตมีแผนจะขยายไปในทุกๆ การขนส่งมวลชน เช่น รถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้าทุกสีที่กำลังเดินหน้าก่อสร้าง เรือโดยสาร เป็นต้น

แนวคิดตั๋วร่วมเริ่มมีมาตั้งแต่ ประมาณปี 2550  รัฐบาลคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. ที่มีพลเรือเอกธีระ ห้าวเจริญ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ก่อนที่จะมีการพัฒนาระบบตั๋วร่วมตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2560 โดยมอบให้ รฟม.ทำหน้าที่บริหารจัดการตั๋วร่วม พร้อมกับ ลงนาม MOU 2 ฉบับ คือ ความร่วมมือเพื่อดำเนินการเชื่อมต่อระบบตั๋วร่วมระหว่าง รฟม. กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS และบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM

อีกฉบับคือบันทึกข้อตกลงเข้าดำเนินงานบริหารจัดการและบำรุงรักษาระบบศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง (Central Clearing House : CCH) ระหว่าง รฟม. กับสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน

แล้วทำไมต้องเป็นบัตรแมงมุม

ในปี 2558  สนข.เปิดให้มีการประกวดออกแบบบัตรตั๋วร่วม ซึ่งนางสาววรรธิชา อเนกสิทธิชน เป็นผู้ชนะการประกวด ซึ่งตัว M มีลักษณะเหมือนแมงมุมและเป็นตัวเอ็มที่มีจุดปลายรวมกัน เหมือนกับเส้นการเดินทางของทุกการคมนาคมทุกอย่างมารวมกัน

นอกจากนี้ ระบบตั๋วร่วมยังออกแบบให้รองรับกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ภายใต้โครงการระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment) ของรัฐบาล โดยกระทรวงการคลังได้กำหนดแผนบูรณาการเข้ากับระบบจ่ายเงินสวัสดิการภาครัฐสำหรับพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ซึ่งจะเริ่มใช้ได้ในเดือนตุลาคม 2560

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม บอกว่า สำหรับการเดินทางในระบบรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางซื่อ หรือ รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT กับรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูน ก่อนที่ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ บัตรโดยสารร่วมจะสามารถใช้ได้ในระบบรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ และรถโดยสารประจำทางขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ รถเมล์ของขสมก. นอกจากนี้รถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ทั้งสายสีชมพู สายสีเหลือง สายสีส้ม และสายสีแดง ก็จะสามารถใช้บัตรแมงมุมร่วมได้เช่นกัน ก่อนจะมีการขยายการใช้บริการไปยังเรือโดยสาร รวมถึงร้านค้าต่างๆได้อีกในอนาคต ส่วนของรถไฟฟ้าบีทีเอสยังอยู่ระหว่างการเจรจา เชื่อว่าหากประชาชนหันมาใช้ตั๋วร่วมมากขึ้นจะทำให้บีทีเอสเข้าร่วมระบบดังกล่าว

นอกจากนี้ ยังมีส่วนของระบบคอมมอนแฟร์ หรือ ระบบจัดเก็บค่าโดยสารเดียว ซึ่งจะทำให้ค่าโดยสารในระบบขนส่งสาธารณะถูกลงหากใช้บัตรโดยสารร่วม

ซึ่งยังต้องรอการจัดตั้งกรมการขนส่งทางราง ที่จะเข้ามาเป็นเรกกูเรเตอร์ เพื่อประเมินภาพรวมโครงการทั้งหมดของรถไฟฟ้าซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ และพิจารณาอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสมก่อนที่จะกำหนดออกมาเป็นบทกฎหมาย ซึ่งยังคงต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ

สำหรับบัตรแมงมุมจะเป็นบัตรอิเล็กทรอนิกส์ มี 3 ประเภท คือ สำหรับบุคคลทั่วไป บัตรผู้สูงอายุ และบัตรนักเรียน/นักศึกษา โดยการใช้งานจะต้องเติมเงินเข้าไปในบัตร ขั้นต่ำ 150 บาท เป็นค่ามัดจำบัตร 50 บาท และค่าโดยสาร 100 บาทและนำไปแตะกับจุดอ่านบัตรของแต่ละระบบ โดยประชาชนสามารถนำบัตรประชาชน หรือบัตรนักเรียน นักศึกษามาขอรับได้ที่เคาน์เตอร์ออกบัตรโดยสาร

อ่านต่อได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/news/

คมนาคม’ จุดพลุ! แจกบัตรแมงมุม 2 แสนใบ นำร่องสีน้ำเงิน-ม่วง ลุย ขสมก.-แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ 1 ต.ค.นี้

“กระทรวงคมนาคม และ รฟม. จับมือนำร่องเปิดตัวบัตรโดยสารร่วม “แมงมุม เชื่อมโยงความสุขทุกการเดินทาง ด้วยบัตรใบเดียว” เริ่มใช้กับรถไฟฟ้า MRT ทั้ง 2 สาย เตรียมพร้อมแจกบัตรแมงมุม 200,000 ใบ ในวันที่ 23 มิถุนายน 2561 เป็นต้นไป”

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานในงานเปิดตัวบัตรโดยสารร่วม หรือ ”บัตรแมงมุม” ว่า ในระยะแรกจะใช้ได้เฉพาะสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงินและรถไฟฟ้าสายสีม่วงตลอดสาย หลังจากนั้นในช่วงเดือน ต.ค.นี้ จะมีการเชื่อมต่อกับรถแอร์พอร์ต เรล ลิ้งก์ และรถเมล์ขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. สำหรับบัตรแมงมุมจะเป็นบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ แบ่งเป็น 3 ประเภท คือบุคคลทั่วไป บัตรผู้สูงอายุ และบัตรนักเรียนนักศึกษา โดยการใช้งานจะต้องเติมเงินเข้าไปในบัตรคล้ายในต่างประเทศ เช่น ฮ่องกงที่มีบัตรปลาหมึก โดยทางการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. ได้เตรียมแจกบัตรฟรีจำนวน 2 แสนใบในช่วงระหว่างวันที่ 23-29 มิ.ย. 2561 และวันที่ 1-5 ก.ค. 2561 ในทุกสถานีของรถไฟฟ้าสายสีม่วง โดยสามารถนำบัตรประชาชน หรือบัตรนักเรียน นักศึกษามาขอรับได้ที่เคาน์เตอร์ออกบัตรโดยสาร

ทั้งนี้ บัตรดังกล่าวจะสามารถใช้ได้กับรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างทั้งโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู สายสีเหลือง สายสีส้ม และสายสีแดง โดยจะมีการขยายการใช้บริการไปยังเรือโดยสาร และทางด่วน Easy Pass และ M Pass รวมถึงร้านค้าต่างๆ ได้ โดยจะพยายามให้เรือด่วนดำเนินการให้เสร็จภายในปีนี้ ซึ่งในอนาคตค่าโดยสารอาจจะถูกลง เพราะจะมีระบบจัดเก็บค่าโดยสารเดียว โดยขณะนี้รอการจัดตั้งกรมการขนส่งทางรางที่จะเข้ามาเป็นผู้กำกับดูแล และพิจารณาอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม แต่หากจะให้มีอัตราค่าโดยสารที่ถูกลงต้องรอการพิจารณาร่างกฎหมายขณะนี้อยู่ในชั้นกฤษฎีกา

ด้านนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า รฟม.เตรียมออกบัตรแมงมุมเวอร์ชั่น 2 ด้วยเทคโนโลยี EMV Contactless Smart Card ที่ในบัตรเครดิต ซึ่งในกลุ่มประเทศยุโรปกำลังพัฒนามาใช้เทคโนโลยีดังกล่าวในอนาคตก็จะสามารถนำบัตรแมงมุมไปใช้เดินทางระบบขนส่งสาธารณะในต่างประเทศและปัจจุบันที่ลอนดอน สิงคโปร์ ได้มีการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวทำให้นำบัตรแมงมุมใช้กับประเทศอื่นที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกันได้ โดยคาดว่าจะมีผู้ใช้บัตรมากขึ้น ส่วนกรณีที่รถไฟฟ้าสายสีเขียวที่จะมีการเข้าร่วมบัตรแมงมุมหรือไม่ ขณะนี้กำลังอยู่เจรจาระหว่างการเจรจาแต่ยอมรับว่าติดปัญหาทางเทคนิคบางอย่างและยังไม่รู้ว่าจะได้ข้อสรุปเรื่องนี้เมื่อใดแต่มองว่าหากฐานผู้ใช้บัตรแมงมุมขยายตัวมากขึ้นทาง BTS ก็จะเข้าร่วมเองเพราะในอนาคตโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและรถไฟฟ้าสายสีเหลืองก็จะต้องมีการเชื่อมต่อระบบเข้าด้วยกันอยู่แล้ว

ในส่วนความคืบหน้าของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้น ทางขณะนี้ทางกรุงเทพมหานครอยู่ระหว่างการเสนอเรื่องเข้าสภากรุงเทพมหานครพิจารณาก่อนแต่ยืนดีรับโอนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวและยังคงกรอบระยะเวลาเดิมในการเปิดให้บริการส่วนต่อขยายช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการช่วงปลายปีนี้ ซึ่งขณะนี้ก็ได้มีการสั่งซื้อขบวนรถเข้ามาแล้วคาดว่าจะทำให้ปัญญาการคับคั่งของการใช้บริการรถไฟฟ้า BTS ลดลง ในส่วนของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิ้งก์ โดยหากทำการปรับปรุงแล้วเสร็จวิ่งให้บริการได้ครบ 9 ขบวน จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มมากขึ้นแม้ว่าจะมีการเชื่อมต่อการเดินทางด้วยบัตรแมงมุม และมองว่าหากในอนาคตเมื่อโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง ก่อสร้างแล้วเสร็จ ในช่วงพัฒนาการที่เป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางจะต้องมีการซื้อขบวนรถเผื่อเนื่องจากจะต้องมีการรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในปี 2564

ขณะที่ นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. กล่าวว่า ในเบื้องต้นจะแจกบัตรแมงมุมจำนวน 200,000 ใบก่อน โดยเติมเงินได้สูงสุด 2,000 บาท ต่ำสุด 150 บาท และสามารถเริ่มใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.นี้ เป็นต้นไป โดยติดต่อขอรับบัตรได้ที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินทุกสถานี ส่วนการเข้าร่วมบัตรแมงมุมของรถเมล์ รฟม.ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยทางเทคนิค ขสมก.อยู่ระหว่างพิจารณาออกแบบ คาดว่าอาจใช้วิธีเก็บค่าโดยสารใน 2 รูปแบบ แบบแรกคือ ให้กระเป๋ารถเมล์มีเครื่องสแกนเก็บค่าโดยสาร หรือแบบที่ 2 คือ การติดตั้งเครื่องอ่านบัตร ไว้บนรถเมล์ ซึ่งจะใช้เวลาอ่านไม่เกินครึ่งวินาทีต่อ 1 ใบ เชื่อมั่นว่าจะไม่เกิดปัญหาเหมือนเครื่องอ่านบัตรที่ต้องโละทิ้งอย่างที่ผ่านมา โดยในส่วนของรถเมล์เอกชนก็สามารถเข้าร่วมได้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการประสานมาแต่ยืนยันว่าจะได้ความชัดเจนในเดือน ต.ค.นี้

ทั้งนี้ ความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 23.6 กิโลเมตร วงเงิน 101,000 ล้านบาท ขณะนี้รายละเอียดการออกแบบและเคลียร์ข้อพิพาทการใช้พื้นที่ก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ รฟม.เพื่อเปิดประมูลโครงการภายในเดือน ส.ค.ตามแผนเดิม โดยขั้นตอนการเปิดประมูลโครงการนั้นได้ข้อสรุปแล้วว่าจะเปิดประกวดราคาแบบ International Bidding เพื่อเปิดช่องให้เอกชนจากต่างประเทศเข้าร่วมประมูลได้อย่างอิสระ เนื่องจากเป็นหนึ่งในเงื่อนไข การให้เงินกู้ของธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือ ADB ซึ่งเป็นผู้ให้เงินกู้มูลค่า 10,000 ล้านบาทหรือราว 10% ของวงเงินทั้งหมด อย่างไรก็ตามข้อกังวลด้านความเสียเปรียบในการแข่งขันประกวดราคาของเอกชนไทยนั้น ตนยืนยันว่าทุกบริษัทที่เข้าร่วมประมูลต้องแข่งขันกันเสนอราคาต่ำที่สุดเพื่อชนะการประมูลตามแนวทางสากลทั่วโลกทีใช้เหมือนกัน ไม่มีคะแนนเรื่องได้เปรียบหรือเสียเปรียบด้านเงินทุน

ด้านแหล่งข่าวจากบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือ รฟฟท. ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ กล่าวว่า ตามที่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้กำหนดให้รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ และรถเมล์ ขสมก. สามารถใช้ร่วมกับบัตรแมงมุมในวันที่ 1 ต.ค.นี้นั้น        ในขณะนี้ แอร์พอร์ต เรล ลิงก์อยู่ระหว่างการติดตั้งระบบตั๋วร่วมพร้อมเครื่องอ่านบัตรแมงมุม วงเงิน 105 ล้านบาท จากบริษัท สมาร์ท เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด ผู้ชนะการประกวดราคา กำหนดระยะเวลาสัญญา 5 เดือน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน ต.ค.นี้

“ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ ผมคิดว่ารถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิงก์อาจจะเปิดใช้ระบบเพื่อรองรับการใช้บัตรแมงมุมไม่ทัน แต่น่าจะทันภายในเดือน ต.ค. เพราะจากสัญญากับบริษัทที่ชนะการประมูลจากเดิม 8 เดือน ลดลงมาที่ 5 เดือน ซึ่งถ้าหากนับตอนนี้ไปถึงเดือน ต.ค. จะเหลือเวลาแค่ 4 เดือนเท่านั้น แต่ยังไงก็ต้องพยายามให้ทัน และทางบริษัทที่ติดตั้งก็รับปากว่าจะทันภายในเดือน ต.ค.นี้” แหล่งข่าวกล่าว

รายงานข่าว ระบุว่า รฟม.เตรียมเปิดให้บริการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถใช้ได้กับระบบตั๋วร่วมได้ในช่วง ก.ค.นี้ ทั้งนี้ ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะสามารถนำบัตรมาใช้การเดินทางได้ 4 ระบบ คือ รถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-เตาปูน และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินหรือรถไฟฟ้าใต้ดิน จะเริ่มใช้ได้ก่อนเริ่มวันที่ 1 ก.ค. นี้ ส่วนรถเมล์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. จำนวน 2,600 คัน และรถไฟฟ้า แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ จะเริ่มใช้วันที่ 1 ต.ค. นี้เป็นต้นไป โดยผู้ถือบัตรต้องนำบัตรสวัสดิการไปฟอร์แมตที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าเพื่อปรับให้เข้ากับระบบตั๋วร่วมก่อนใช้บริการครั้งแรก

อ่านต่อได้ดี : http://www.transportjournalnews.com/